รัฐบาลกัวเตมาลาเผย ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายพุ่งกว่า 150 คน จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนอีตา (Eta) ซึ่งซัดถล่มหมู่บ้านชนพื้นเมืองทางตอนเหนือ และทำให้เกิดดินถล่มหลายจุด
ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมยอดผู้เสียชีวิตอีกกว่า 20 คน ในประเทศแถบอเมริกากลางอื่นๆ หลังจากที่พายุอีตาได้พัดขึ้นฝั่งนิการากัว ด้วยความแรงเทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 4 เมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.)
ประธานาธิบดี อเลฮันโดร ยัมมัตติ แห่งกัวเตมาลา แถลงวานนี้ (6) ว่าได้มีการส่งทหารหน่วยหนึ่งไปยังหมู่บ้านเกวฮา (Queja) ทางตอนเหนือเพื่อปฏิบัติภารกิจกู้ภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นั่นอาจเสียชีวิต
“รายงานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า มีบ้านเรือน 150 หลัง ถูกดินโคลนถล่มทับ และพบผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 100 คน” ผู้นำกัวเตมาลาแถลง พร้อมระบุว่ายังมีเหตุดินถล่มเกิดขึ้นที่เขต Huehuetenango ซึ่งติดกับเม็กซิโก ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอีก 10 ราย
“เมื่อดูจากตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังสูญหาย เราจึงประเมินอย่างไม่เป็นทางการยอดผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ราวๆ 150 คน”
ยัมมัตติ ยอมรับว่า สถานการณ์ที่หมู่บ้านเกวฮาอยู่ในขั้น “วิกฤต” เนื่องจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้มีดินโคลนถล่มซ้ำ ส่วนถนนเข้าสู่หมู่บ้านก็ถูกตัดขาด
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้ชุมชนชาวพื้นเมืองมายาราว 2,500 คน ต้องสูญเสียบ้านเรือนและทรัพย์สิน
พายุลูกนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันขณะที่เคลื่อนตัวออกจากฮอนดูรัส แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นเตือนว่ามันอาจจะทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อนได้อีกระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าสู่คิวบา
รัฐบาลคิวบาเริ่มเตรียมมาตรการรับมือพายุตั้งแต่วันศุกร์ (6) โดยคาดว่าพายุอีตาจะเคลื่อนตัวเข้าสู่คิวบาในวันอาทิตย์นี้ (8)
อิทธิพลของพายุอีตาทำให้เกิดฝนตกหนักและอุทกภัยในนิการากัว, ฮอนดูรัส, กัวเตมาลา, คอสตาริกา, เอลซัลวาดอร์ รวมถึงปานามา และแม้ว่าพายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงไปมาก แต่ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ยังคงแจ้งเตือนความเสี่ยงเกิด “น้ำท่วมฉับพลันที่อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต” ในบางภูมิภาคของอเมริกากลาง
ที่มา : รอยเตอร์