xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งมะกันคู่คี่มากเพราะส่วนใหญ่เชื่อ ‘ไบเดน’รับมือโควิดได้ดี แต่‘ทรัมป์’ฟื้นเศรษฐกิจได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนเฝ้าดูจอมอนิเตอร์รายงานผลเลือกตั้งคืนวันอังคาร (3 พ.ย.) ที่สี่แยก แบล็ก ไลฟส์ แมตเทอร์ พลาซา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน
ผู้ออกเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคราวนี้ เผชิญกับทั้งวิกฤตการณ์ทางสาธารณสุข และเศรษฐกิจที่บาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ โจ ไบเดน ต่างก็ไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นทางเลือกที่ชัดเจนสำหรับจัดการกับประเด็นปัญหาทั้ง 2 ด้าน

จากผลการสำรวจความคิดเห็น “เอพี โหวตแคสต์” (AP Votecast) ที่สอบถามตัวอย่างผู้คนในสหรัฐฯมากกว่า 1 แสนคน ชี้ให้เห็นว่า ผู้ออกเสียงจำนวนมากเกินครึ่ง ทั้งในระดับทั่วประเทศ และในพวกรัฐที่เป็นสมรภูมิช่วงชิงสำคัญๆ บอกว่าอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้สมัครของพรรคเดโมแครต จะทำได้ดีกว่าในการรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจสูงที่สุดของผู้ออกเสียงราวๆ 4 ใน 10

แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน จะดีกว่าในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่หลังทรุดตัวหนักโดยมีผู้ตกงานจำนวนเกือบๆ 11 ล้านคน และบรรดาธุรกิจรายเล็กๆ ต่างอยู่ในอาการย่ำแย่หนัก ทั้งนี้ผู้ออกเสียงราว 3 ใน 10 ทั่วสหรัฐฯจัดให้เรื่องเศรษฐกิจเป็นประเด็นที่รีบเร่งหนักหน่วงที่สุด

ความวิตกกังวลในสิ่งที่แตกต่างกันเช่นนี้ เป็นตัวครอบงำการแข่งขันระหว่างทรัมป์กับไบเดน ซึ่งปรากฏเป็นบทสรุปออกมาในวันเลือกตั้ง อังคารที่ 3 พ.ย. ว่า ผู้สมัครทั้ง 2 ต่างฉุดดึงกันและกันเอาไว้ในการชิงชัยที่คู่คี่กันตลอดทั่วทุกรัฐสมรภูมิ ไบเดนเตือนว่าเศรษฐกิจจะไม่สามารถที่จะเยียวยาอย่างเต็มที่ได้เลยหากไม่ควบคุมไวรัสโคโรนาให้ได้ก่อน แล้วจากนั้นธุรกิจต่างๆ จึงจะสามารถเปิดขึ้นมาอีกครั้งอย่างเต็มตัว

ขณะที่ทรัมป์โต้แย้งว่าเศรษฐกิจไม่ควรที่จะกลายเป็นผู้ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายจากโรคร้ายนี้ และพูดยืนกรานเรื่อยมา โดยไม่ได้มีหลักฐานรองรับว่า ประเทศชาติกำลังมาถึงจุดที่จะสามารถเลี้ยวกลับไปในทางที่ดีขึ้นได้แล้ว

ถึงแม้คืนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. ในสหรัฐฯผ่านพ้นไปโดยยังไม่ปรากฏตัวผู้ชนะอย่างแท้จริง แต่ภาพชัดเจนหลายๆ ภาพของการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่มองกันกันได้แล้ว สามในสี่ของผู้ออกเสียงทั้งหมดบอกว่าพวกเขาทราบมาโดยตลอดว่าพวกเขาจะสนับสนุนใคร และทรัมป์คือปัจจัยที่มีน้ำหนักสูงมากในความคิดของพวกเขา –โดยสองในสามบอกว่าการตัดสินใจของพวกเขามีแรงขับดันจากความคิดเห็นของพวกเขาต่อประธานาธิบดีผู้แหกกฎจารีตทั้งหลายผู้นี้ ไม่ว่าจะในทางสนับสนุน หรือในทางต่อต้านคัดค้านก็ตามที

พวกผู้ออกเสียงมีลักษณะรวมกลุ่มพวกเขาเองเข้าเป็นกลุ่มพันธมิตร 2 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มแทบไม่ได้มีอะไรร่วมกันเลย กล่าวคือพวกรีพับลิกันกำลังมองเห็นเศรษฐกิจของประเทศที่หนักแน่นเข้มแข็ง ขณะที่พวกเดโมแครตมองเห็นความอ่อนแอปวกเปียก ประเด็นปัญหาอย่างเช่น การเหยียดผิว และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เป็นเรื่องสนใจห่วงใยสำหรับคนส่วนข้างมากที่ออกเสียงให้ไบเดน ทว่ามันก่อให้เกิดความห่วงใยน้อยกว่านักหนาในหมู่ผู้หนุนหลังทรัมป์

ผู้ออกเสียงเลือกทรัมป์ต่างให้การรับรองเห็นชอบกับประธานาธิบดีของเขาอย่างท่วมท้น ราว 8 ใน 10 ของพวกเขาบอกว่าเสียงโหวตของพวกเขาคือการสนับสนุนทรัมป์ ไม่ใช่เพื่อการต่อต้านคัดค้านไบเดน และมีจำนวนคร่าวๆ ใกล้ๆ กันนี้บอกว่าทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงวิถีทางที่สิ่งต่างๆ ดำเนินไปในวอชิงตัน โดยเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

ทรัมป์ยังคงสามารถดึงดูดความสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบด้วยชายผิวขาว, ผู้ออกเสียงผิวขาวที่การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี, และพวกที่อาศัยตามเมืองเล็กๆ และชุมชนชนบท ส่วนไบเดนได้รับแรงหนุนมากกว่าจากผู้ออกเสียงที่เป็นผู้หญิง, พวกจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป, พวกคนหนุ่มสาว, และคนผิวดำ, คนฮิสแพนิก, และคนเชื้อสายเอเชีย

ในหมู่ผู้ออกเสียงในไบเดน ส่วนข้างมากคือราว 6 ใน 10 บอกว่าโรคระบาดเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่สุด เท่ากับกว่า 2 เท่าตัวของพวกผู้ออกเสียงให้ทรัมป์ทีเดียว

เอพี โหวตแคสต์ เป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้ออกเสียงและผู้ไม่ออกเสียงมากกว่า 133,000 คนทั่วสหรัฐฯ จัดทำให้แก่สำนักข่าวเอพี โดย สถาบันวิจัย เอ็นโออาร์ซี แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก

(ที่มา: เอพี)

พลเมืองอเมริกันเฝ้าลุ้นรายงานผลเลือกตั้ง ที่งานชุมนุมเฝ้าหน้าจอภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตามไทม์โซนเป็นวันพุธที่ 4 พ.ย.

จัสติน เบล็ค ลุงของจาค็อบ เบล็ค ผู้ถูกตำรวจยิงใส่กลางหลังหลายนัดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดูจอทีวีรายงานผลการเลือกตั้ง ที่งานปาร์ตี้ติดตามผลเลือกตั้งแหล่งหนึ่ง เมื่อคืนวันอังคาร (3 พ.ย.) ในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน
กำลังโหลดความคิดเห็น