กองทัพเรือศรีลังกา และอาสาสมัครกู้ภัย เร่งช่วยเหลือฝูงวาฬนำร่องกว่า 120 ตัว ซึ่งว่ายมาเกยตื้นบริเวณชายหาดของเมืองปานาดูรา (Panadura) ตั้งแต่บ่ายวานนี้ (2 พ.ย.) นับเป็นเหตุวาฬเกยตื้นที่มีจำนวนวาฬฝูงใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
อินดิกา เดอ ซิลวา โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ, ยามฝั่ง และอาสาสมัครในท้องถิ่นช่วยกันผลักดันวาฬกลับลงทะเลไปได้แล้วประมาณ 120 ตัว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังจากพยายามช่วยชีวิตพวกมันตลอดทั้งคืน
“เราใช้เรือตรวจการณ์ขนาดเล็กค่อยๆ ลากฝูงวาฬออกไปยังที่น้ำลึกทีละตัวๆ แต่น่าเสียดายที่วาฬ 2 ตัวตายลง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงระหว่างเข้ามาเกยตื้น” เดอ ซิลวา ระบุ
หน่วยงานท้องถิ่นเตรียมรับมือกับเหตุฝูงวาฬเกยตื้นคล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นบนเกาะแทสเมเนียเมื่อเดือน ก.ย. ซึ่งตอนนั้นมีฝูงวาฬนำร่องว่ายหลงทางมาเข้าฝั่งมากถึง 470 ตัว และรอดชีวิตเพียง 110 ตัวเท่านั้น
สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลของศรีลังกา (MEPA) ยืนยันว่า ฝูงวาฬที่เกยตื้นบนชายหาดปานาดูรานั้นมีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ
“การที่วาฬฝูงใหญ่ขนาดนี้มาเกยตื้นบนชายหาดของเราเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง” ธาร์ชานี ลาฮันดาปูรา ผู้อำนวยการ MEPA ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี พร้อมระบุว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ฝูงวาฬหลงทิศทาง
“เราคิดว่ามันน่าจะคล้ายกับกรณีวาฬเกยตื้นที่แทสเมเนียเมื่อเดือน ก.ย.”
วาฬนำร่องเป็นสัตว์สังคมที่มีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับฝูงของมัน ตัวที่โตเต็มวัยอาจมีความยาวถึง 6 เมตร และหนักประมาณ 1 ตัน
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปรากฏการณ์วาฬเกยตื้นมานานหลายสิบปี แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้
ที่มา: เอเอฟพี