วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 7/2563 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกรุงธน 3 สำนักเทศกิจ
ตามที่สำนักเทศกิจ ได้ออกประกาศกรุงเทพมหานคร (ฉบับใหม่) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 และได้มอบหมายสำนักงานเขตสำรวจจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ยกเลิก จำนวน 171 จุด ในพื้นที่สำนักงานเขต 18 เขต ที่ไม่ขัดต่อประกาศ เพื่อพิจารณาเป็นจุดทำการค้า โดยเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 63 สำนักงานเขตพระนคร สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย และดุสิต ได้เสนอจุดทำการค้า ซึ่งเป็นจุดผ่อนผันเดิมรวมจำนวน 23 จุด ต่อคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ในการประชุม ครั้งที่ 5/2563 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป็นพื้นที่ทำการค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างอีก 14 สำนักงานเขตจัดทำรายละเอียดพื้นที่ทำการค้าในจุดที่เหลือ โดยมีเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในปี 2563
สำหรับการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 61-12 ต.ค. 63 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 35,742 ราย ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย ดำเนินคดี 30,109 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,803 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 37,746,000 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-12 ต.ค.63 สำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 215 ราย แยกเป็น ประชาชนทั่วไป 199 ราย วินจักรยานยนต์ 7 ราย แกร๊ป 9 ราย ปรับเป็นเงิน 375,500 บาท ส่วนการดำเนินการกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 61-25 ต.ค. 63 สำนักงานเขต จัดเก็บได้ 179,781 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 50 ราย จับ-ปรับ 4,268 คดี ปรับเป็นเงิน 13,017,400 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-25 ต.ค. 63 สำนักงานเขตจัดเก็บได้ 3,560 ป้าย จับปรับ 62 คดี ปรับเป็นเงิน 156,500 บาท ด้านการดำเนินการยกซากรถยนต์บนถนนหรือในที่สาธารณะจากการสำรวจ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ต.ค. 63) มีจำนวน 718 คัน สำนักงานเขตเคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 35 คัน เจ้าของรถเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 568 คัน คงเหลือ จำนวน 115 คัน
นอกจากนี้ สำนักเทศกิจได้จัดทำแผนการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563 และจัดทำคำสั่งมอบหมายภารกิจให้แก่เจ้าหน้าที่เทศกิจในสังกัดสำนักเทศกิจบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตต่างๆ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร ฯลฯ เพื่อตรวจตรา ดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่มาร่วมงานลอยกระทง ตามสถานที่จัดงานลอยกระทง อาทิ ใต้สะพานพระราม 8 คลองโอ่งอ่าง และบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 8 แห่ง และจุดอื่นๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ อาทิ บริเวณโป๊ะ ท่าเรือ ท่าข้าม และริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลอง และเฝ้าระวังการใช้งานท่าเรือและโป๊ะตามความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดของท่าเรือและโป๊ะ พร้อมทั้งจัดหน่วยตรวจทางน้ำ พร้อมเรือตรวจการณ์เทศกิจจำนวน 4 ลำ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ลอยกระทงบริเวณท่าน้ำ โป๊ะ ท่าเทียบเรือริมแม่เจ้าพระยา ช่วงตั้งแต่ สะพานพระราม 7 ถึง สะพานพระราม 9
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันที่ 31 ต.ค. 63 เป็นวันเทศกาลลอยกระทง จึงมอบหมายสำนักเทศกิจและสำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของประชาชนที่มาร่วมงานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่เขตรับผิดชอบในทุกจุด สำหรับมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงต้องเน้นย้ำกำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวัง ทั้งในส่วนของการป้องกันตนเอง และการออกตรวจตามมาตรการที่กำหนด โดยขอให้ตรวจแนะนำอย่างเข้มงวดต่อไป นอกจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ชั้นใน เช่น พระนคร ปทุมวัน ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย มีกลุ่มมวลชนมาชุมนุมเกือบทุกวัน ได้มอบหมายสำนักงานเขตพื้นที่และสำนักงานเขตที่มีสถานีรถไฟฟ้าติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมกำลังพล โดยเน้นย้ำให้รักษาวินัยและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ สำหรับนโยบายการจัดระเบียบทางเท้าด้านอื่นๆ อาทิ จอดรถหรือขับขี่บนทางเท้า ป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดระเบียบผู้ค้า และความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยอื่นๆ ยังคงต้องเข้มงวดกวดขันเช่นที่ผ่านมา เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานครต่อไป