เอพี - “ทรัมป์-ไบเดน” ปิดฉากการหาเสียงเพื่อแย่งชิงคะแนนในรัฐสำคัญด้วยการกล่าวหากันว่า ไม่เหมาะเป็นประธานาธิบดีอเมริกา ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดครั้งประวัติศาสตร์ และจำนวนผู้ใช้สิทธิล่วงหน้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 93 ล้านคน
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาในวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) เดินสายจากนอร์ธแคโรไลนา ถึงวิสคอนซิน ขณะที่ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ใช้เวลาส่วนใหญ่ในรัฐเพนซิลเวเนีย และไอโอวา ซึ่งเป็นสองรัฐที่สำคัญต่อชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอังคาร (3 พ.ย.) ที่หลายคนมองว่า เป็นการลงประชามติเกี่ยวกับการจัดการวิกฤตไวรัสโคโรนาของทรัมป์
ผู้สมัครทั้งสองคนต่างโจมตีอีกฝ่ายว่า ไม่เหมาะเป็นประธานาธิบดี เพราะจะทำให้ประเทศชาติในช่วง 4 ปีข้างหน้า เข้าสู่สถานการณ์ที่เกือบเรียกได้ว่า เป็นวันสิ้นโลก
ทรัมป์กล่าวหาไบเดนว่า จะเปลี่ยนอเมริกาเป็นคุกด้วยการล็อกดาวน์ และปล่อยให้พวกก่อจลาจลฝ่ายซ้ายสุดโต่งตระเวนปล้นและเผาเมือง
ฝ่ายไบเดนประกาศว่า อเมริกากำลังจะปิดฉากประธานาธิบดีที่สุมไฟความเกลียดชัง ความโกรธแค้น ความวุ่นวาย และการทวีต
ขณะที่การหาเสียงใกล้จบลง สถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ของอเมริกา ยังไม่มีวี่แววคลี่คลาย แต่จำนวนคนตายยังเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 230,000 คน จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทำสถิติ และทำให้ประชาชนตกงานเกือบ 20 ล้านคน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ เกิดขึ้นในปีที่ทรัมป์ถูกดำเนินการสอบสวนเพื่อถอดถอน ไบเดนเกือบฝันสลายระหว่างการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ตามด้วยวิกฤตโรคระบาด
การเลือกตั้งปีนี้ยังสร้างสถิติใหม่ในแง่จำนวนผู้ใช้สิทธิล่วงหน้า ทั้งด้วยการไปลงคะแนนล่วงหน้า และการลงคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งอาจส่งผลให้การนับคะแนนล่าช้า และทรัมป์กล่าวอ้างมาหลายเดือนโดยไม่มีหลักฐานว่า การลงคะแนนทางไปรษณีย์จะเปิดโอกาสให้มีการโกงขนานใหญ่ รวมทั้งยังไม่รับปากว่า จะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่หากตัวเองแพ้
โดยในวันอาทิตย์ ทรัมป์ถึงขั้นขู่ฟ้องให้ยุติการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่ส่งถึงคูหาหลังวันเลือกตั้ง แนวโน้มว่าจะมีการฟ้องร้องส่งผลให้เพนซิลเวเนียกลายเป็นสนามเลือกตั้งสำคัญที่สุด
สำหรับไบเดนที่อาศัยอยู่ในรัฐเดลาแวร์ที่อยู่ใกล้กัน เพนซิลเวเนียเป็นเป้าหมายสำคัญในการหาเสียงมาโดยตลอด เพื่อสกัดทรัมป์ไม่ให้ได้คะแนนจากคณะเลือกตั้งที่จำเป็นสำหรับชัยชนะครั้งนี้ ไบเดนและวุฒิสมาชิกคามาลา แฮร์ริส คู่หูที่ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี จะตระเวนหาเสียงในรัฐนี้ในวันจันทร์ (2 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง
นอกจากนั้น ไบเดนยังเดินทางไปยังโอไฮโอเมื่อวันอาทิตย์ โดยรัฐนี้ทรัมป์เคยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเป็นรัฐที่จะขาดไม่ได้ในการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม แม้มีคะแนนนำชัดเจนในโพล แต่การที่ไบเดนขยายพื้นที่หาเสียงตอกย้ำความกังวลของพรรคเดโมแครตจากความพ่ายแพ้ของฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนของพรรคในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ซึ่งมีบางคนมองว่า การที่คลินตันจู่โจมเข้าสู่รัฐของรีพับลิกันอาจเป็นสาเหตุให้เดโมแครตเสียรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคมายาวนานอย่างเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน
ขณะเดียวกัน การขาดแคลนเงินทุนสนับสนุนการหาเสียง ทำให้ทรัมป์ไม่สามารถโฆษณาทางสื่อต่างๆ สู้กับไบเดนได้ จึงต้องอาศัยการลงพื้นที่หาเสียงเพื่อปลุกเร้ากองเชียร์และดึงดูดสื่อให้นำเสนอข่าว
การหาเสียงซึ่งเป็นพลังการเมืองสำคัญที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อาจปิดฉากลงในวันจันทร์ที่นอร์ธแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน และมิชิแกน โดยทรัมป์จะเน้นรัฐที่เคยชนะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
อลิซ สจ๊วร์ต นักกลยุทธ์ของรีพับลิกัน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้กลายเป็นจุดนัดพบแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของประเด็นโรคระบาด เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติในอเมริกา ทว่า ผลการเลือกตั้งจะไม่ช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หายไปทันที ไม่ว่าใครเป็นผู้ชนะก็ตาม