เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตซึ่งอาจติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่มในกรีซและตุรกี หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ (30 ต.ค.) ซึ่งยังก่อให้เกิด “มินิ-สึนามิ” ซัดเข้าสู่เกาะซามอสในทะเลเอเจียน และทำให้ท้องถนนริมชายฝั่งตะวันตกของตุรกีกลายสภาพเป็นคลองที่มีน้ำไหลเชี่ยว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็นอย่างน้อย 22 ราย
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ได้ 7.0 แมกนิจูด โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองคาร์โลวาซี (karlovasi) บนเกาะซามอสของกรีซประมาณ 14 กิโลเมตร
ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ยังทำให้ตุรกีและกรีซซึ่งเป็นชาติคู่อริยอมหันหน้าพูดคุยกัน โดยนายกรัฐมนตรี คีเรียคอส มิตโซทาคิส ของกรีซได้โทรศัพท์ถึงประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เพื่อแสดงความเสียใจและพร้อมมอบการสนับสนุนที่จำเป็น
ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดขึ้นทั้งในและรอบๆ เมืองอิซมีร์ (Izmir) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศริมทะเลเอเจียนของตุรกีที่มีประชากรราว 3 ล้านคน และเต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัยสูงระฟ้า
ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นอาคารหลายหลังพังถล่มกลายเป็นเพียงซากอิฐซากปูน สิ่งของเครื่องใช้เกลื่อนกระจัดกระจายเต็มถนน ขณะที่ผู้รอดชีวิตหลายคนนั่งจับกลุ่มร้องไห้ และยังอยู่ในอาการช็อกเกินกว่าที่จะให้สัมภาษณ์
ทุนค์ โซเยอร์ นายกเทศมนตรีเมืองอิซมีร์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเติร์กว่ามีอาคารพังถล่มอย่างน้อย 20 หลัง และปฏิบัติการกู้ชีพในตอนนี้ถูกเน้นไปที่อาคาร 17 แห่ง
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติตุรกีรายงานยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ราย บาดเจ็บอีกเกือบ 800 ราย ส่วนที่กรีซมีรายงานวัยรุ่น 2 คนซึ่งกำลังเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้านถูกกำแพงถล่มทับเสียชีวิต
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอิซมีร์ตัดสินใจนำผู้ป่วยที่ยังนอนติดเตียงและต้องให้น้ำเกลือออกมาพักที่ริมถนนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานกิจการศาสนาของตุรกีได้สั่งเปิดมัสยิดให้ประชาชนที่ไร้ที่อยู่อาศัยเข้าไปพักพิงชั่วคราว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เบกีร์ พัคเดมีร์ลี รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรตุรกี สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่ม โดยเขาได้พูดกับเธอว่า “ขอให้หนูใจเย็นๆ เรากำลังพยายามยกแท่งคอนกรีตออกเพื่อเข้าถึงตัวหนู”
สถานีโทรทัศน์ NTV รายงานว่า ที่อาคารแห่งนี้อาจมีคนติดอยู่ภายในถึง 6 คน รวมถึงลูกพี่ลูกน้องของเด็กหญิงคนดังกล่าว
ผู้ว่าการจังหวัดเผยว่ามีผู้ประสบภัยอย่างน้อย 70 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ในช่วงค่ำวันศุกร์ (30) แต่ยังไม่ทราบแน่นอนว่ามีผู้สูญหายอีกมากน้อยแค่ไหน
ด้านสำนักงานป้องกันพลเรือนของกรีซได้ส่งข้อความแจ้งประชาชนบนเกาะซามอสให้ “อยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง และหลีกเลี่ยงอาคารต่างๆ” เพื่อป้องกันไว้ก่อน
กรีซและตุรกีตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่สู้ดีนัก แม้จะเป็นพันธมิตรในกลุ่มนาโตเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติครั้งนี้ได้นำมาสู่ปรากฏการณ์ที่หลายคนเรียกว่า “แผ่นดินไหวการทูต (earthquake diplomacy)” หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ฝ่ายมีการต่อสายพูดคุยกัน ตามมาด้วยบทสนทนาระหว่าง มิตโซทาคิส และ แอร์โดอัน
“ไม่ว่าเราจะแตกต่างกันแค่ไหน แต่นี่คือเวลาที่ประชาชนของเราต้องยืนหยัดร่วมกัน” ผู้นำกรีซทวีตข้อความ ซึ่ง แอร์โดอัน ก็ได้ทวีตตอบกลับว่า “ขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี การที่เพื่อนบ้านทั้งสองแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากคือสิ่งที่มีค่ามากกว่าหลายๆ อย่างในชีวิต”
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่ารู้สึก “มีกำลังใจ” ที่ได้เห็นความร่วมมือระหว่างกรีซและตุรกี ส่วนประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเปิดศึกโต้คารมกับ แอร์โดอัน หลายครั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ก็ประกาศว่าปารีสพร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างทั้ง 2 ประเทศ
ที่มา: เอเอฟพี
