เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นักบินไต้หวันเสียชีวิตหลังเครื่องบินขับไล่ F-5E เกิดตกลงในทะเลวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) ทางฝั่งตะวันออกระหว่างการฝึกตามตาราง เป็นเหตุการตกทางอากาศที่เลวร้ายของไต้หวันในรอบ 3 เดือน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (29 ต.ค.) ว่า นักบิน ชู กวง-เม็ง (Chu Kuang-meng) สามารถดีดตัวออกมาจากเครื่องบินขับไล่รุ่น F-5E ลำที่เกิดเหตุได้สำเร็จ หลังรายงานเครื่องยนต์ขัดข้องไม่นานหลังขึ้นเทคออฟ กองทัพอากาศไต้หวันแถลง
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ พบว่า เครื่องบินที่ตกบินออกมาในเวลา 07.29 น.ของวันพฤหัสบดี (29) และเกือบจะทันทีที่นักบินรายงานความผิดปกติเกิดขึ้น โดยนักบินรายนี้มีสถิติการบินทั้งหมด 703 ชั่วโมง และจากทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 510 ชั่วโมงอยู่บนเครื่อง F-5
อย่างไรก็ตาม ชู วัย 29 ปี สามารถได้รับการช่วยเหลือจากทะเลในสภาพที่หมดสติ แต่ไม่สามารถกู้ชีพได้ถึงแม้ได้รับการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์เป็นเวลาหลายชั่วโมง
บลูมเบิร์กชี้ว่า เครื่องบินขับไล่ไต้หวันตกเกิดขึ้นในวันนี้ (29) ระหว่างที่เครื่องบินกำลังอยู่ระหว่างการฝึกตามตารางเหนือน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกทางตะวันออกของประเทศ
ซึ่งการตกครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน สร้างความวิตกต่อฝูงบินรบไต้หวันที่มีอายุการใช้งานมานานเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไทเปถูกปักกิ่งท้าท้ายด้วยการส่งเครื่องบินล่วงล้ำน่านฟ้าไต้หวันบ่อยครั้ง
หน่วยกู้ภัยออกติดตามค้นหาชูทันทีหลังจากเครื่องบินขับไล่ของเขาตกห่างจากฝั่งตะวันออกของเทศมณฑลไต้ตุง (Taitung county) ไปไม่กี่ร้อยเมตร
เครื่องบินขับไล่รุ่น F-5E ของบริษัท นอร์ทรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) ของไต้หวันเข้าประจำการมาตั้งแต่กลางยุค 70 และในเวลานี้กองทัพไต้หวันนำมาใช้เพื่อการฝึกเป็นส่วนใหญ่ สหรัฐฯได้ยกเลิกการผลิตเครื่องบินขับไล่รุ่น F-5 ไปตั้งแต่ปี 1989 ส่งผลทำให้ทางไต้หวันต้องพยายามความหาอะไหล่เพื่อบำรุงรักษาให้เครื่องยังคงขึ้นบินได้ตามปกติ
แต่เมื่อปีที่ผ่านมา สหรัฐฯอยู่ในระหว่างการพิจารณาเริ่มการผลิตชินส่วนของรุ่น F-5 ให้สำหรับไต้หวันโดยเฉพาะ อ้างอิงการเปิดเผยจากบริษัท เจนส์ (Janes) ด้านความมั่นคงที่ได้เปิดเผย
บลูมเบิร์กชี้ว่า ขณะที่สหรัฐฯปฎิเสธคำขอรัฐบาลไต้หวันในการขอซื้อเครื่องบินรบรุ่น F-35 วอชิงตันอยู่ในความพยายามหาช่องทางปรับปรุงฝูงบินรบของไทเปให้มีความทันสมัยมากขึ้น
โดยพบว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามข้อตกลงขายฝูงเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 66 ลำ ให้ไต้หวันในเดือนสิงหาคม ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจขายฝูงเจ็ตลำยุคให้ไต้หวันนับตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ เอช-ดับเบิลยู บุชผู้พ่อ อนุมัติข้อตกลงขายเครื่องบิน F-16 จำนวน 150 ลำในปี 1992
ขณะที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา อนุมัติข้อตกลงมูลค่า 5.3 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2011 เพื่อปรับปรุงฝูงบินรบ F-16 ของไต้หวันที่มีอยู่เดิมจำนวน 140 ลำ
ไต้หวันตกเป็นเป้าคุกคามของจีนซึ่งตั้งแต่ต้นปี พบว่า เครื่องบินกองทัพไต้หวันต้องขึ้นสกัดเครื่องบินกองทัพจีนที่ล่วงล้ำเขต ADIZ เป็นเวลา 19 วันติดต่อกันแค่เฉพาะในเดือนนี้ และไต้หวันก่อนหน้าได้ถูกจีนส่งเครื่องบินรบเข้าคุกคามมาตลอด