โฆษกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนลงมือโจมตีชาวตะวันตก รวมถึงท่อส่งน้ำมันและสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจในซาอุดีอาระเบีย เพื่อแก้แค้นที่มีส่วนสนับสนุนข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรนห์
“เป้าหมายมีอยู่มากมาย เริ่มจากโจมตีและทำลายท่อส่งน้ำมัน โรงงาน และสาธารณูปโภคที่เป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาลทรราชย์ก่อน” อบูฮัมซา อัล-มุฮาญีร์ โฆษกไอเอส ระบุในถ้อยแถลงซึ่งเผยแพร่ผ่านบัญชีเทเลแกรมของกลุ่ม
โฆษกกลุ่มก่อการร้ายยังระบุด้วยว่า ข้อตกลงที่บาห์เรนและยูเออีลงนามร่วมกับรัฐยิวเมื่อเดือนที่แล้วถือเป็นการ “ทรยศ” ต่อศาสนาอิสลาม และริยาดมีส่วนสนับสนุนการฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตครั้งนี้ โดยยอมเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินอิสราเอลผ่านไปยังรัฐเพื่อนบ้านริมอ่าวเปอร์เซียทั้งสองได้
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศาสนสถานสำคัญที่สุดในอิสลามและเป็นชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงปฏิเสธที่จะฟื้นความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับอิสราเอลตามแรงบีบของสหรัฐฯ โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลเสียก่อน
ในคลิปเสียงที่เผยแพร่เมื่อเดือน ม.ค. โฆษกไอเอสผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนโจมตีชาวยิวหรือทรัพย์สินของอิสราเอล เพื่อตอบโต้แผนสันติภาพตะวันออกกลางของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
นักรบไอเอสเคยสยายอิทธิพลเหนือดินแดนกว้างใหญ่ และประกาศสถาปนา ‘รัฐคอลีฟะห์’ ขึ้นในอิรักและซีเรียเมื่อปี 2014 ก่อนจะถูกสหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรโจมตีตอบโต้จนสูญเสียที่มั่นไปเกือบหมดในช่วงระหว่างปี 2018-2019
ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี