จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ นำพาชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในรอบครึ่งศวตวรรษ สู่พรรคเลเบอร์ พรรคการเมืองซ้ายกลางของเธอ ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ (17 ต.ค.) หลังผูุ้มีสิทธิออกเสียง มอบรางวัลตอบแทนผูู้นำรายนี้ ต่อกรณีรับมือกับโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ได้อย่างเด็ดขาด
จากอาณัติดังกล่าวของประชาชน นั่นหมายความว่า อาร์เดิร์น วัย 40 ปี อาจจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ แต่ขณะเดียวกัน เธอก็จะต้องเจอกับความท้ายทายเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ความก้าวหน้า หลังล้มเหลวในการทำตามสัญญาในช่วงสมัยแรกของการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากพรรคเลเบอร์ต้องแบ่งอำนาจกับพรรคการเมืองอนุรักษนิยมพรรคหนึ่ง
พรรคเลเวอร์อยู่บนเส้นทางของการกว้าเก้าอี้ 64 จากทั้งหมด 120 ที่นั่งในรัฐสภาเดี่ยว ซึ่งถือเป็นจำนวนที่นั่งสูงสุดที่พรรคการเมืองใดๆ เคยได้รับนับตั้งแต่นิวซีแลนด์เริ่มใช้ระบบการลงคะแนนแบบสัดส่วนในปี 1996
อาร์เดิร์น วัย 40 ปี ให้คำสัญญากับบรรดาผู้สนับสนุน ว่าเธอจะสร้างเศรษฐกิจที่ประสบผลสำหรับทุกผล สร้างงาน ฝึกฝนประชาชน ปกป้องสิ่งแวดล้อม จัดการกับความท้าทายเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
จูดิธ คอลลินส์ ผู้นำพรรคแนชันแนล พรรคฝ่ายค้าน กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี สำหรับ “ผลการเลือกตั้งที่อัศจรรย์” หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยว่าพรรคเลเบอร์ได้คะแนนโหวต 49.0% ส่วนพรรคเนชันแนล ได้คะแนนโหวต 27% หลังนับคะแนนไปแล้ว 95%
นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นบอกว่า เธอจะรอจนกว่าผลเลือกตั้งขั้นสุดท้ายจะออกมา หากว่ารัฐบาลของเธอจะมีพรรคการเมืองขนาดเล็ก อย่างเช่นพรรคกรีน รวมอยู่ด้วยเหนือไม่ ซึ่งหากมีการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลผสม นั้นจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลมีคะแนนที่นั่งรัฐสภาเพิ่มขึ้นมาอีก 8%
อาร์เดิร์น ได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วโลก ต่อแนวทางของเธอในการรับมือกับเหตุกราดยิงหมู่โดยฝีมือของผู้คลั่งคนผิวขาว (White Supremacist) รายหนึ่งที่เมืองไครสต์เชิร์ช หลังเธอดำเนินการอย่างรวดเร็วและหนักแน่นในการแบนอาวุธปืน
ชื่อเสียงของเธอโด่งดังอีกครั้งในปีนี้ ด้วยแนวทาง “จัดการปัญหาอย่างหนักแน่นและตั้งแต่เนิ่นๆ” ในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้สามารถกำจัดการแพร่ระบาดระดับท้องถิ่นในประเทศแห่งนี้ได้สำเร็จ
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้มีอันต้องล่าช้านานกว่า 1 เดือน หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโอ๊คแลนด์ นำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบ 2 ในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ
ในขณะที่เธอมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ต่อกรณีสนับสนุนประเด็นก้าวหน้าต่างๆ อย่างเช่นสิทธิสตรีและความยุติธรรมทางสังคม แต่ในนิวซีแลนด์ อาร์เดิร์น ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อความล้มเหลวของเธอ ในการทำตามคำสัญญาเปลี่ยนผ่านสู่ความก้าวหน้า
แม้วิถีชีวิตได้กลับสู่ภาวะปกติแล้วในนิวซีแลนด์ แต่พวกเขายังคงปิดชายแดน ภาคการท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส และคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะถดถอยยาวนาน หลังการล็อกดาวน์อันเข้มงวด
เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ หดตัวถึง 12.2% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส นับเป็นการหดตัวหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) และคาดหมายว่าตัวเลขหนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 56% ของจีดีพี จากระดับไม่ถึง 20% ก่อนหน้าโรคระบาดใหญ่
นอกจากศึกเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ในวันเสาร์ (17 ต.ค.) ชาวนิวซีแลนด์ยังคงลงคะแนนโหวตประชามติเกี่ยวกับการทำการุณยฆาตและกัญชาเพื่อสันทนาการเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ซึ่งจะมีการประกาศผลคะแนนในวันที่ 30 ตุลาคม โดยการโหวตในประเด็นหลังนี้ อาจทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ 3 ในโลกที่จะอนุญาตให้ผู้ใหญ่ใช้กัญชาหรือขายกัญชาทั่วประเทศ ต่อจากอุรุกวัย และแคนาดา
(ที่มา : รอยเตอร์)