บรรดานายทหารระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกอยู่ในคณะเสนาธิการทหารร่วมของประเทศ ต้องพากันกักตัวเกือบยกชุด หลังจากรองผู้บัญชาการของหน่วยยามฝั่ง มีผลตรวจโรคโควิด-19 ออกมาเป็นบวก ภายหลังเข้าประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมอเมริกัน (เพนตากอน) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกัน พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าต้องระวังศัตรูของสหรัฐฯอาจฉวยจังหวะนี้ก่อเหตุบางอย่าง
เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อยืนยันเมื่อวันอังคาร (6 ต.ค.) ว่า เหล่าผู้บัญชาการทหารระดับสูงทั้งหมดยังคงมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามปกติระหว่างการกักตัวเพื่อเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน ยกเว้นเพียง พลเรือเอก ชาร์ลส์ เรย์ รองผู้บัญชาการของหน่วยยามฝั่ง
ทางด้านหน่วยยามฝั่งแถลงในวันเดียวกันว่า ผลการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 ของเรย์ออกมาเป็นบวกเมื่อวันจันทร์ (5) หลังจากเขามีอาการปางบเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ และขณะนี้กักตัวอยู่ที่บ้าน
โจนาธาน ฮอฟฟ์แมน โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ แถลงว่า ผู้ที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับเรย์ทั้งหมดในระหว่างการประชุมที่เพนตากอนปลายสัปดาห์ที่แล้ว ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเมื่อเช้าวันอังคารและผลตรวจเป็นลบ รวมทั้งไม่มีใครแสดงอาการป่วย
เพนตากอนยังเร่งติดตามหาผู้สัมผัสโรคเพิ่มเติม ตลอดจนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อปกป้องกำลังพลและภารกิจของกองทัพสหรัฐฯ โดยฮอฟฟ์แมนยืนยันว่า เหล่านายทหารระดับสูงและกองทัพสหรัฐฯ ยังมีความพร้อมและศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจเช่นเดิม
ทั้งนี้ ในที่ประชุมซึ่งเรย์เข้าร่วมสัปดาห์ที่แล้ว ประกอบด้วย นายทหารระดับสูงของอเมริกาหลายคน รวมถึง พลเอก มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ตลอดจนรองประธานคณะเสนาธิการร่วม, ผู้บัญชาการกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังอวกาศ นอกจากนั้น ยังมีผู้อำนวยการของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการของกองบัญชาการไซเบอร์ด้วย และผู้บัญชาการของกองกำลังป้องกันชาติ โดยนายทหารระดับสูงทั้งหมดเหล่านี้สมัครใจกักตัวเอง
มีเพียง พลเอก เดวิด เบอร์เกอร์ ผู้บัญชาการของหน่วยนาวิกโยธินเท่านั้นที่ไม่ได้กักตัว เนื่องจากไม่ได้ร่วมประชุมด้วย เช่นเดียวกับ มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหม ที่สัปดาห์ที่แล้วติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ
ถึงแม้เจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคน ยืนยันว่า ไม่พบว่ามีภัยคุกคามความมั่นคงเพิ่มขึ้นนับจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีรายงานข่าวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่โดยตำแหน่งคือผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯ ติดเชื้อโรคโควิด ทว่า อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนเตือนว่า คณะบริหารไม่ควรประมาท
จอห์น เบรนแนน อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ในยุคอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตือนว่า จีนอาจพยายามทำบางอย่างในฮ่องกง หรือทะเลจีนใต้ หรือ รัสเซียอาจทำบางอย่างในเบลารุส หรือประเทศอื่นๆ ในขณะที่ทรัมป์ยังต้องโฟกัสที่การรักษาตัว
สตีเฟน แฮดลีย์ ซึ่งรับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในสมัยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช เตือนคล้ายกันว่า ศัตรูอาจคิดว่า อเมริกากำลังถูกหันเหความสนใจไปที่โควิด และเป็นโอกาสเหมาะในการลงมือทำบางอย่าง
ขณะที่ ส.ส.แอดัม สมิธ ประธานคณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครต ออกคำแถลงโจมตีว่า แม้กองทัพยังคงปฏิบัติภารกิจได้ขณะที่บรรดาผู้นำเหล่าทัพต้องกักตัว แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าความชะล่าใจ และการจัดการวิกฤตไวรัสของทรัมป์กำลังคุกคามความมั่นคงของชาติ พร้อมเตือนว่า เหล่าศัตรูรอคอยที่จะฉวยโอกาสจากจุดอ่อนของอเมริกาตลอดเวลา
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)