xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ เบรกเจรจาแพ็กเกจเยียวยาโควิด-รอตีกินหลังเลือกตั้ง ‘ไบเดน’ จวกทอดทิ้งประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศระงับการเจรจากับพรรคเดโมแครตเพื่อออกแพ็กเกจเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงในศึกทำเนียบขาว ออกมาวิจารณ์ว่าผู้นำสหรัฐฯ กำลังทอดทิ้งชาวอเมริกันให้เผชิญชะตากรรมท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด

นอกจาก ไบเดน ซึ่งจะต้องดวลกับ ทรัมป์ ในศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย. แล้ว แกนนำพรรคเดโมแครตรวมถึงสมาชิกรีพับลิกันบางคนก็ออกมาวิจารณ์ ทรัมป์ เช่นกัน โดยชี้ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ชาวอเมริกันนับล้านๆ คนที่ตกงานจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งได้คร่าชีวิตพลเมืองไปกว่า 2 แสน และทำให้มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 7 ล้านคน

“ประธานาธิบดีกำลังหันหลังให้พวกคุณ” ไบเดน ทวีตข้อความ

ทรัมป์ วัย 74 ปี เดินทางกลับทำเนียบขาวในวันจันทร์ (5) หลังเข้ารักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์รีดได้เพียงแค่ 3 คืน

แพทย์ประจำตัวยืนยันวานนี้ (6) ว่า ทรัมป์ ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ และยังคง “สบายดีมาก”

อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสยังคงแพร่กระจายในหมู่คนใกล้ชิดทรัมป์ โดย สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของทำเนียบขาว เป็นเจ้าหน้าที่รายล่าสุดที่ออกมายอมรับวานนี้ (6) ว่ามีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก

นายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ หลายคนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคด้วย หลังมีคำยืนยันว่า พล.ร.อ. ชาร์ลส ดับเบิลยู. เรย์ รองผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ติดโควิด-19

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทรัมป์ ได้เปิดออฟฟิศชั่วคราวภายในทำเนียบขาว แทนที่จะใช้ห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ตามปกติ และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่อาวุโสไม่กี่คนเข้าพบแบบตัวต่อตัวในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายก่อนศึกเลือกตั้ง

ทรัมป์ ประกาศยกเลิกการเจรจากับผู้แทนพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับแพ็กเกจเยียวยาโควิด โดยรอให้ผ่านพ้นศึกเลือกตั้งไปก่อน แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

“ผมสั่งให้ผู้แทนของผมหยุดการเจรจาไว้ก่อน และทันทีที่ผมชนะเลือกตั้ง เราจะผ่านกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เน้นช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ทำงานหนักและบรรดาธุรกิจรายย่อย” ทรัมป์ ทวีตข้อความ

แม้ผู้นำสหรัฐฯ จะพยายามโชว์ความห้าวเพื่อเรียกคะแนนนิยม แต่ผลสำรวจล่าสุดโดยรอยเตอร์/อิปซอสระหว่างวันที่ 2-6 ต.ค. ที่ผ่านมาพบว่า คะแนนนิยมของ ไบเดน ยังเพิ่มขึ้นมาอีกถึง 4 แต้ม โดย 52% ของชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเตรียมจะโหวตเลือกอดีตรองประธานาธิบดีสายเดโมแครตเป็นผู้นำคนใหม่ และมีเพียง 40% เท่านั้นที่บอกว่าจะเลือก ทรัมป์

ระหว่างการปราศรัยที่เมืองเก็ตตีสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดในช่วงสงครามกลางเมือง ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ “การสู้รบระหว่างฝักฝ่ายที่ไม่จบสิ้น” และอ้างถึงความล้มเหลวในการรับมือโรคระบาด โดยไม่ได้เอ่ยชื่อ ทรัมป์ ตรงๆ

“การสวมหน้ากากไม่ใช่ถ้อยแถลงทางการเมือง แต่มันคือคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์” ไบเดน กล่าว โดยเป็นการตำหนิ ทรัมป์ ทางอ้อมที่ยังคงไม่ให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากาก ทั้งๆ ที่ตัวเองติดโควิด-19 แล้ว

ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลกลับไปถึงทำเนียบขาว ทรัมป์ได้ออกมายืนที่ “ระเบียงทรูแมน” และถอดหน้ากากป้องกันออกเพื่อโพสท่าให้นักข่าวถ่ายรูป ซึ่งเรียกเสียงวิจารณ์อื้ออึงจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสายเดโมแครต แสดงท่าทีไม่ยี่หระกับการปฏิเสธเจรจาของทรัมป์ โดยอ้างว่าอย่างไรเสีย ทรัมป์ ก็แพ้เลือกตั้งแน่นอน และสภาคองเกรสจะผ่านแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาจนได้ในช่วงที่ประธานาธิบดีอยู่ในสภาพเป็น “เป็ดง่อย” รอการเข้ารับตำแหน่งของผู้นำคนใหม่

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น