น้ำมันขึ้น ทองคำลง, หุ้นสหรัฐฯดิ่ง ทรัมป์สั่งระงับเจรจาแพกเกจเยียวยาโควิดไปหลังเลือกตั้ง

ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (6 ต.ค.) หลังเกิดความวุ่นวายทางอุปทานจากพายุที่คืบคลานเข้ามาในอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทร่วงแรง และทองคำปิดบวก หลังประธานาธิบดี ทรัมป์ แถลงระงับเจรจาร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ไปจนกว่าจะผ่านพ้นศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บริษัทพลังงานต่างๆ ต้องปิดแท่นขุดเจาะน้้ำมันนอกชายฝั่ง หลังพายุเดลต้าทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 2 และอยู่บนเส้นทางที่จะคืบคลานเข้าหาอ่าวเม็กซิโกในวันพฤหัสบดี (8 ต.ค.) โดยมันจะเป็นพายุลูกที่ 10 ที่เล่นงานสหรัฐฯในปีนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดย้อนกลับไปกว่า 1 ศตวรรษเลยทีเดียว

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (6 ต.ค.) แกว่งจากแดนบวก ปักหัวลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่า เขาจะระงับการเจรจาร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ฉบับใหม่ ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี

ดาวโจนส์ ลดลง 375.88 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,772.76 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 47.68 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,360.95 จุด แนสแดค ลดลง 177.88 จุด (1.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,154.60 จุด

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันอังคาร (6 ต.ค.) ระงับการเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ สำหรับอัดฉีดเศรษฐกิจสหรัฐฯจากผลกระทบของโควิด-19 ไปจนเสร็จศึกเลือกตั้ง ฉุดวอลล์สตรีทดิ่งลง และคุกความความคืบหน้าเมื่อเร็วๆ นี้ ในการเจรจาที่ยืดเยื้อมานาน

ข้อความบนทวิตเตอร์ของทรัมป์ ทำลายมุมมองในแง่บวกที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลัง แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากเดโมแครต และ สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลัง กลับมาเจรจากันอีกครั้ง เพื่อหาทางผ่านร่างกฎหมายเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน (CARES Act) จำนวน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ เยียวยาผลกระทบโควิด-19

ถ้อยแถลงของทรัมป์ยังมีขึ้นแม้ว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับผลกระทบเลวร้ายทางเศรษฐกิจ หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ กล่าวหาแกนนำเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่จริงใจ และเผยว่า เขาขอให้ มิตช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา หันมามุ่งให้ความสนใจกับการรับรองผู้ที่เขาเสนอชื่อให้เป็นศาลสูงคนใหม่แทน

“แนนซี เปโลซี ร้องขอเงิน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่พวกผู้บริหารห่วยๆ ประพฤติมิชอบ รัฐต่างๆ ที่บริหารโดยเดโมแครต เงินที่จะเข้าไปไม่มีทางเกี่ยวข้องกับโควิด-19” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ อ้างถึงตัวเลขที่ไม่ถูกต้องสำหรับข้อเสนอล่าสุดของเดโมแครต

“เรายื่นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นปกติที่เธอไม่เจรจาด้วยความจริงใจ ผมปฏิเสธขอเสนอของพวกเขา และมองไปยังอนาคตของประเทศของเรา”

หากว่าเขาได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง แม้ผลโพลหลายสำนักเผยว่า เขามีคะแนนตามหลัง โจ ไบเดน อยู่พอสมควร ทรัมป์บอกว่า จะทำงานกับสภาคองเกรสในการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬารที่ให้ความสำคัญกับอเมริกันชนผู้ทำงานหนักและบรรดาธุรกิจขนาดเล็ก

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (6 ต.ค.) ปรับลดแรง หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 11.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,908.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)