ผู้คนราวๆ 1 ใน 10 อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อประชากรส่วนที่เหลือ จากการเปิดเผยขององค์การอนามัยโลกในวันจันทร์ (5 ต.ค.) พร้อมเผยพบเห็นการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับยุโรปและภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลก เวทีที่สหรัฐฯ ใช้โอกาสนี้โจมตีจีน ในสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าล้มเหลวในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
เบรตต์ กิรัวร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ บอกว่ามันสำคัญยิ่งที่รัฐสมาชิก 194 ชาติขององค์การอนามัยโลก ต้องได้รับการอัพเดทข้อมูลต่างๆเป็นประจำและทันเวลา ทั้งสำหรับคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลกหรือสำหรับคณะทำงานภาคสนามใดๆ “เพื่อที่เราจะสามารถดำเนินการประสานงานและมีความมั่นใจในผลลัพธ์ต่างๆ ที่ออกมา”
อย่างไรก็ตาม ทางจาง หยาง คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ตอบโต้กลับว่า “จีนโปร่งใสมาตลอดและมีความรับผิดชอบต่อพันธสัญญาระหว่างประเทศของเรา และจีนยังคงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติในทุกระดับ” เธอกล่าว
ไรอัน บอกว่า พบเห็นการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบเคสผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของยุโรปและภูมิภาคตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
“ตามการคาดหมายของเราในปัจจุบัน มีประชากรโลกราวๆ 10% อาจติดเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งแตกต่างไปในแต่ละประเทศ แต่ละพื้นที่เมืองหรือชนบท แต่ละกลุ่ม ซึ่งหมายความว่าประชากรโลกส่วนใหญ่ยังคงเสี่ยงต่อการติดเชื้อ" ไรอันกล่าว "เวลานี้เรากำลังมุ่งหน้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไวรัสยังแค่แพร่ระบาด”
เบื้องต้นองค์การอนามัยโลกและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ บอกว่าไวรัสซึ่งเชื่อว่าอุบัติขึ้นในตลาดสดแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของจีนเมื่อปีที่แล้ว มีต้นตอจากสัตว์
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามระบุหาต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แน่ชัด และล่าสุด ไรอัน เปิดเผยโดยไม่ให้รายละเอียดใดๆ ว่าองค์การอนามัยโลกได้มอบรายชื่อของคณะผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้าร่วมลงพื้นที่ ในภารกิจนานาชาติสืบสวนหาต้นตอของโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้แก่จีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน อเล็กซานดรา โดรโนวา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซีย เรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลกประเมินผลลัพธ์ทางกฎหมายและทางการเงิน จากกรณีที่รัฐบาลของทรัมป์แถลงถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกในเดือนกรกฎาคมปีหน้า
ทั้งนี้ เสียงเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ บอกว่าจะไม่จ่ายเงินราว 80 ล้านดอลลาร์ที่ติดหนี้องค์การอนามัยโลก และจะนำเงินส่วนนี้ไปบริจาคให้กับโครงการอื่นขององค์การสหประชาชาติแทน
(ที่มา : รอยเตอร์)