ไม่กี่ชั่วโมงก่อนศึกดีเบตครั้งแรกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทาง โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตในวันอังคาร (29 ก.ย.) เปิดเผยข้อมูลคืนภาษี 2019 และทีมหาเสียงของเขาเรียกร้องให้ ทรัมป์ ทำอย่างเดียวกัน หลังจากก่อนหน้านี้ตัวแทนของรีพับลิกันปฏิเสธเปิดเผยข้อมูลคืนภาษีของตนเองมาตลอด
ไบเดน มีกำหนดขึ้นเวทีดีเบตกับคู่แข่งจากรีพับลิกันในคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ในช่วงเย็นวันอังคาร (29 ก.ย.) 2 วันหลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สออกมาแฉว่า ทรัมป์ จ่ายภาษีเงินได้ให้แก่รัฐบาลกลางแค่ 750 ดอลลาร์ในปี 2016 และ 2017 และไม่เสียภาษี 10 ปีในช่วง 15 ปีหลังสุด โดยใช้วิธีแจ้งสรรพากรว่าธุรกิจขาดทุนยับ เพื่อเอามาหักกลบกับรายได้จริงหลายร้อยล้านดอลลาร์
รายละเอียดทางด้านการเงินของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์นำมาเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ย.) ขัดแย้งกับคำอวดอ้างของเขาซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนเดียวในยุคสมัยใหม่ของอเมริกาที่ไม่เปิดเผยข้อมูลภาษีให้สาธารณชนรับรู้ ที่ว่าตนเองเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจและรักชาติ เนื่องจากรายงานล่าสุดเต็มไปด้วยข้อมูลระบุการขาดทุนและรายได้ในต่างประเทศที่ขัดแย้งกับความรับผิดชอบในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ขณะที่เขาหาทางเก็บประเด็นทางการเงินส่วนตัวเป็นความลับมาตลอด
ข้อมูลภาษีของไบเดน พบว่า เขาและ จิล ภรรยา จ่ายภาษีแก่รัฐบาลกลางและชำระค่าอื่นๆ เป็นเงินมากกว่า 346,000 ดอลลาร์ในปี 2019 จากรายได้เกือบ 985,000 ดอลลาร์ ก่อขอคืนภาษีเป็นเกือบ 47,000 ดอลลาร์ ที่ชำระเกินไว้
“มันคือระดับความโปร่งใสที่มีเจตนามอบความเชื่อมั่นคืนสู่ประชาชนชาวอเมริกาอีกครั้ง ว่ายรรดาผู้นำของพวกเขาจะดูแลพวกเขา ไม่ใช่ใส่ใจแต่ตนเอง” เคท เบดิงฟิลด์ รองผู้จัดการทีมหาเสียงของไบเดนกล่าว “ท่านประธานาธิบดีเปิดเผยข้อมูลขอคืนภาษีของท่าน ไม่อย่างงั้นก็หุบปากไปซะ”
ด้วยอเมริกันชนมากกว่า 1 ล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเวลาใกล้หมดลงสำหรับการเปลี่ยนใจหรือก่ออิทธิพลใดๆ ต่อผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจ ดังนั้น ศึกดีเบตระหว่าง 2 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวจึงมีเดิมพันค่อนข้างสูง
ในศึกดีเบตครั้งแรกจากทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นราว 5 สัปดาห์ก่อนถึงการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะเริ่มขึ้นตอน 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 08.00 น.เช้าวันพุธ) ณ มหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเซิร์ฟ ในคลีฟแลนด์ โดยจะใช้เวลา 90 นาที มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าฟังและเว้นระยะห่างทางสังคม สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19
การวางเดิมพันของไบเดนด้วยการเปิดเผยข้อมูลคืนภาษีก่อนศึกดีเบต แสดงให้เห็นว่าอดีตรองประธานาธิบดีรายนี้หวังช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือจากประเด็นดังกล่าว โดยกล่าวอ้างรายงานของนิวยอร์กไทม์สส่งเสียงเตือนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งว่า มหาเศรษฐกิจนักพัฒนาอสังหาริมทรัพยที่ผันตัวสู่เวทีการเมือง หลีกเลี่ยงจ่ายภาษีเงินได้แก่รัฐบาลกลางบ่อยครั้ง
พรคเดโมแครตใช้โอกาสหนี้ตราหน้าทรัมป์ว่าเป็นพวกหนีภาษี แต่โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์เผยแพร่ถ้อยแถลงตอบโต้การเปิดเผยภาษีของไบเดน โดยกล่าวหาเขาว่าไม่สุจริตใจในการเปิดเผยข้อมูลรายได้ในอดีตที่ผ่านมาต่อสาธารณชน แต่ไม่ได้ระบุว่าในส่วนของทรัมป์นั้นจะเปิดเผยข้อมูลขอคืนภาษีหรือไม่
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเผยว่า ได้รวบรวมข้อมูลภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้อนหลังไป 20 ปี พบว่า ทรัมป์ไม่เสียภาษีเงินได้ให้รัฐบาลกลางเป็นเวลา 11 ปี จาก 18 ปีที่ตรวจสอบ
นับจากปี 2010 ทรัมป์ยื่นเรื่องและรับภาษีเงินได้คืนรวมมูลค่า 72.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า กลายเป็นประเด็นหลักในการตรวจสอบของสำนักงานสรรพากร ซึ่งหากมีคำตัดสินออกมาในท้ายที่สุด อาจทำให้ทรัมป์ต้องจ่ายภาษีย้อนหลังกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลขอคืนภาษีของไบเดน เผยให้เห็นว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเขามาจากบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่ามีหน้าที่บริการจัดการเงินค่าจ้างสำหรับกล่าวบรรยายและเขียนหนังสือต่างๆ และค่าจ้างสอนจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งเวลานี้เขาลางานโดยไม่รับค่าจ้าง หลังตัดสินใจลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นอกเหนือจากไบเดนแล้ว วุฒิสมาชิกคาลามา แฮร์ริส คู่ชิงรองประธานาธิบดีอขงไยเดร ก็เปิดเผยข้อมูลของคืนภาษีเช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า แฮร์ริส และดัก เอ็มฮอฟฟ์ สามีของเธอ เสียภาษีแก่รัฐบาลกลางราวๆ 1.2 ล้านดอลลาร์ จากรายได้ 3.3 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 ทั้งนี้แม้รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ เคยเปิดเผยข้อมูลคืนภาษีย้อนหลัง 1 ทศวรรษก่อนศึกเลือกตั้ง 2016 ทว่านับตั้งแต่นั้นก็ไม่มีข้อมูลภาษีของเขาอีกเลย
(ที่มา : รอยเตอร์)