นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ให้คำมั่นสัญญาต่อเวทีสหประชาชาติเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ย.) ว่าจะทุ่มเทกำลังผลิตวัคซีนทั้งหมดของประเทศเพื่อช่วยมนุษยชาติทั่วโลกต่อสู้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19
“ในฐานะที่เราเป็นชาติผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุด ผมขอให้คำมั่นต่อประชาคมโลกในวันนี้ว่า กำลังผลิตวัคซีนของอินเดียจะถูกใช้เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติในการต่อสู้วิกฤตครั้งนี้” โมดี ระบุในสุนทรพจน์ต่อเวทีสมัชชาใหญ่สหประชาชาติซึ่งมีการบันทึกเทปเอาไว้ล่วงหน้า
นายกฯ โมดี ระบุด้วยว่า อินเดียกำลังก้าวสู่การทดลองทางคลินิกในขั้นที่ 3 ซึ่งหมายถึงการทดสอบกับคนกลุ่มใหญ่เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน
ผู้นำอินเดียเคยประกาศเมื่อเดือน ส.ค. ว่าแดนภารตะมีความพร้อมที่จะเริ่มกระบวนการผลิตในเชิงอุตสาหกรรม ทันทีที่วัคซีนผ่านการรับรองจากนักวิทยาศาสตร์
อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เรียกร้องให้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาสำเร็จในอนาคตเป็น “วัคซีนของประชาชน” ที่ทุกประเทศสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าบางประเทศ “มีการทำข้อตกลงข้างเคียงเพื่อกว้านซื้อวัคซีนสำหรับประชากรของตัวเองเท่านั้น”
“การแจกวัคซีนแบบชาตินิยม (vaccinationalism) ไม่ใช่แค่ไม่เป็นธรรม แต่ยังสร้างความพ่ายแพ้แก่ตัวเอง เราทุกคนจะยังไม่ปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่ทุกฝ่ายก็รู้ดี” กูเตียร์เรส แถลงต่อที่ประชุมยูเอ็น
จากข้อมูลวันนี้ (28) ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในอินเดียพุ่งขึ้นไปถึง 6.07 ล้านคน โดยใช้เวลาเพียง 12 วันในการไต่ระดับจาก 5 สู่ 6 ล้าน แต่ก็พอมีสัญญาณที่ดีอยู่บ้างเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่หายจากโรคมีมากกว่า 5 ล้านคน หรือคิดเป็น 82% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด
ที่มา : รอยเตอร์, The Times of India
