นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียเรียกร้องวันนี้ (26 ก.ย.) ให้ทุกประเทศทั่วโลกร่วมกันสืบหาและทำความเข้าใจต้นตอของโควิด-19 ซึ่งเป็นถ้อยแถลงที่คาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดกับจีน
ระหว่างแถลงต่อที่ประชุมทางไกลของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ นายกฯ มอร์ริสัน ย้ำว่าการสืบหาต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะช่วยลดความเสี่ยงที่โลกจะต้องเผชิญกับโรคระบาดใหญ่อีกครั้งในอนาคต
“ไวรัสชนิดนี้ได้สร้างหายนะให้กับโลกและประชากรทั่วโลก เราจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อเหตุผลเดียวก็คือป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก” มอร์ริสัน กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงก์
“ทั่วโลกมีมติเอกฉันท์ชัดเจนว่าจะต้องระบุชนิดของสัตว์ที่เป็นต้นตอโควิด-19 และศึกษาว่ามันแพร่มาสู่มนุษย์ได้อย่างไร”
ผู้นำออสซี่เคยออกมาพูดทำนองเดียวกันนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นชนวนเหตุบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างแคนเบอร์รากับปักกิ่ง
ในตอนนั้น มอร์ริสัน ทำตัวเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้สืบหาต้นตอโควิด-19 ซึ่งจีนก็ออกมาคัดค้านอย่างรุนแรง ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงแคนเบอร์ราเตือนว่าข้อเรียกร้องของผู้นำออสซี่อาจกระทบสัมพันธ์การค้า
นับตั้งแต่นั้นมา จีนเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรการค้ากับออสเตรเลีย โดยระงับนำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลียบางส่วน, รีดภาษีข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียในอัตรา 80.5% ซึ่งทำให้การค้าที่มีมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ต้องหยุดชะงัก และยังตรวจสอบกรณีออสเตรเลียทุ่มตลาดไวน์ที่ส่งมาขายในจีนด้วย
ผู้นำออสเตรเลียยังเรียกร้องให้ทุกประเทศทั่วโลกแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 หากมีการพัฒนาได้สำเร็จ
เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทยา แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ของอังกฤษเพื่อสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 และหากวัคซีนของแอสตราผ่านการรับรองก็คาดว่าออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนล็อตแรกในราวๆ เดือน ม.ค. ปี 2021
ออสเตรเลียยังประกาศว่าจะแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 บางส่วนให้กับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกด้วย
ที่มา: รอยเตอร์