พวกชุมนุมไม่สวมหน้ากากหลายพันคนเดินขบวนบนท้องถนนกลางกรุงลอนดอน เพื่อต่อต้านการประกาศขยายข้อจำกัดสกัดโควิด-19ของรัฐบาล จนเกิดการปะทะกับตำรวจ
บรรดาผู้ชุมนุมเดินขบวนชูป้ายขอความต่อต้านล็อกดาวน์และต่อต้านสวมหน้ากาก ระหว่างนั้นผู้คนบางคนในฝูงชนขว้างปาขวดเข้าใส่ตำรวจ ส่วนเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการใช้ตะบองทุบตีจนผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บไปหลายคน
"น่าเศร้า เจ้าหน้าที่บางคนได้รับบาดเจ็บขณะกำลังรับมือกับฝูงชน" ตำรวจนครบาลลอนดอนระบุในทวิตเตอร์ พร้อมบอกว่าฝูงชนบางส่วนเคลื่อนไปยังสวนสาธารณะไฮด์พาร์ค "เราขอให้คนที่เข้าร่วมสลายการชุมนุม"
ตำรวจเปิดด้วยเผยว่าผู้ประท้วงในลอนดอนทำผิดกฎระเบียบห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 6 คน หลังไม่ยอมปฏิบัติตามคำสัญญาที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าในการชุมนุมครั้งนี้จะยึดถือมาตรการเว้นระยะทางสังคม
เหตุประท้วงครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่หลายชาติในยุโรป ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร กำลังต่อสู้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในขณะที่บางประเทศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่แพร่ระบาด ส่วนในสหราชอาณาจักรนั้น รายงานพบผู้ติดเชื้ออีก 6,042 คนในวันเสาร์(26ก.ย.) ลดลงจาก 6,874 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้
นอกจากมีการประท้วงบนท้องถนนต่อต้านล็อกดาวน์แล้ว ในรัฐสภายังพบเห็นการขัดขืนความพยายามยกระดับคุมเข้มสกัดโควิด-19ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน โดยสมาชิกรัฐสภาอย่างน้อย 40 คนจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟ พรรครัฐบาล สนับสนุนร่างกฎหมายที่เปิดทางให้ส.ส. มีอำนาจมากขึ้นในการคัดค้านมาตรการต่างๆที่กำหนดโดยรัฐบาล
การประท้วงในลอนดอนมีขึ้นหลายวันหลังจากรัฐบาลของจอห์นสัน ขยายข้อจำกัดต่างๆในความพยายามควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่่มสูุงขึ้น โดยร้านอาหารและบาร์ต่างๆได้รับคำสั่งปิดทำการตอน 22.00น. แลระงับแผนให้ผู้ชมกลับสู่กิจกรรมกีฬาต่างๆ นอกจากนี้แล้วรัฐบาลยังขู่เพิ่มโทษปรับสำหรับคนที่ไม่สวมหน้ากาก พร้อมบอกว่าจะมีการยกระดับความเข้มข้นของข้อจำกัดต่างๆมากขึ้นไปอีก หากว่าไม่สามารถควบคุมไวรัสได้
จอห์นสัน กล่าวปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวันที่ 22 กันยายนว่า "สหราชอาณาจักรเสี่ยงมีคนตายมากขึ้น หลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักก่อนเวลาอันควร ถ้าผู้คนไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง ข้อเท็จจริงที่น่าสลดของโควิดก็คือ คุณแค่ไอเบาๆก็สามารถทำให้คนอื่นถึงแก่ชีวิต"
ที่มา:บลูมเบิร์ก