แอนดรูว์ คูโอโม ผูุ้ว่าการรัฐนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) เผยว่า รัฐของเขาจะทำการตรวจสอบซ้ำด้วยตนเอง ต่อวัคซีนโควิด-19 ใดๆ ที่ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานรัฐบาลกลาง โดยอ้างถึงความกังวลว่ากระบวนการตรวจสอบนั้นถูกนำให้เป็นเรื่องการเมืองมากเกินไป
“พูดตรงๆ เลย ผมไม่ไว้ใจความเห็นของรัฐบาลกลาง” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กจากเดโมแครตบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะจัดตั้งคณะกรรมการทบทวนภายใต้บัญชาของกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์ก ความเคลื่อนไหวที่อาจซ้ำเติมความกังวลและความไม่สบายใจแก่พลเมืองสหรัฐฯ ต่อแนวทางอนุมัติกระบวนการว่าที่วัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลกลาง
ผู้ว่าการรัฐรายนี้ส่งเสียงกังวลต่อคำแถลงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ที่ระบุว่า ทำเนียบขาวอาจจะไม่อนุมัติมาตรฐานใหม่ที่คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) กำหนดอย่างเข้มงวดมากขึ้นสำหรับการใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization หรือ EUA) เพื่ออนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน และบ่งชี้ว่ามันอาจมีแรงจูงใจทางการเมือง
“มันฟังแล้วดูเหมือนเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง” ทรัมป์พูดถึงแผนของคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ซึ่งเขาบอกว่ามันจะทำให้การเปิดตัววัคซีนต้องล่าช้าออกไปโดยไม่จำเป็น ในขณะที่เขาประกาศว่าวัคซีนโควิด-19 จะพร้อมใช้งานก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน
นายแพทย์ แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐฯ ประมาณการว่า จะมีวัคซีนที่พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยในช่วงเดือนท้ายๆ ของปี 2020 พร้อมตั้งคำถามต่อคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่บอกว่ามันจะพร้อมก่อนศึกเลือกตั้ง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพล Kaiser Family Foundation เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า อเมริกันชนจำนวนมากยังคงคลางแคลงในต่อกระบวนการผลิตวัคซีน โดยมากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าจะไม่ขอรับวัคซีนแม้ว่าจะมีการฉีดให้ฟรีก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
พวกผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากบอกว่าการปราศจากความเชื่อมั่น ท้ายที่สุดแล้วจะกัดเซาะความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
คูโอโม พร้อมกับ เกรตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแดน เรียกร้องให้ผู้ตรวจการของสภาคองเกรวเข้าตรวจสอบแนวทางตอบสนองของโรคระบาดใหญ่ของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พยายามทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นการเมือง
“มันชัดเจนว่า ประธานาธิบดีและคณะที่ปรึกษาของเขากำลังพยายามบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของพวกผู้เชี่ยวชาญที่นำเสนอข้อเท็จจริงสวนทางกับวาระทางการเมืองของรัฐบาล” บรรดาผู้ว่าการจากเดโมแครต ระบุ “เราไม่อาจปล่อยให้การตัดสินใจที่มีแรงจูงใจทางการเมืองเช่นนี้หยั่งรากลึก”
ประชาชนมากกว่า 200,000 คนเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ ในขณะที่การแพร่ระบาดยังคงลุกลามอย่างรวดเร็วในหลายพื้นของประเทศ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
(ที่มา:เอเอฟพี)