มิตช์ แม็คคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ และสมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ ในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) บอกปัดท่าทีของทรัมป์ที่ปฏิเสธให้สัญญาถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติหากเป็นฝ่ายปราชัย โดยให้คำรับประกันกับผู้มีสิทธิออกเสียงอเมริกันชนว่าสมาชิกรัฐสภาจะยอมรับผลการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อวันพุธ (23 ก.ย.) ทรัมป์ปฏิเสธให้คำสัญญาถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง พร้อมคาดหมายว่าการชิงชัยในศึกเลือกตั้งระหว่างเขากับ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต อาจต้องไปตัดสินในศาลสูง
การตอบคำถามผู้สื่อข่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ โหมกระพือเสียงขุ่นเคืองในวงกว้าง และกระตุ้นให้บรรดาสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรสต้องหาทางปลีกตัวเองออกห่างจากทรัมป์
“ผู้ชนะในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนจะได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม จะมีการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนที่เป็นผ่านๆ มา ในทุกๆ 4 ปีตั้งแต่ปี 1972” แม็คคอนเนลล์ เขียนบนทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตาม แม็คคอนเนลล์ ก็เหมือนกับสมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ ที่ไม่วิพากษ์วิจารณ์ ทรัมป์ โดยตรง
ในขณะที่ยังไม่มีสัญญาณว่าประเด็นโต้เถียงนี้จะซาลงง่ายๆ ทางโฆษกทำเนียบขาวกล่าวระหว่างแถลงสรุป ว่า “ประธานาธิบดีจะยอมรับผลการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม”
อย่างไรก็ตาม เป็นเวลาหลายเดือน ที่ทรัมป์ตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการโกงเลือกตั้ง และโจมตีพรรคเดโมแครตซ้ำๆ ต่อกรณีที่สนับสนุนให้ใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์อย่างกว้างขวางสำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ไม่ต้องการเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากการไปลงคะแนนด้วยตนเองตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ
เดโมแครต กล่าวหาว่า ทรัมป์ คุกคามประชาธิปไตยของอเมริกาและผลักตัวเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่แทน นางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ที่เพิ่งเสียชีวิต ให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง ด้วยบ่งชี้ว่าว่าที่ผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่จะแทรกแซงผลเลือกตั้ง
สมาชิกรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึงวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอและมิตต์ รอมนีย์ เช่นเดียวกับ เควิน แม็คคาร์ธีย์ แกนนำรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมกันพยายามปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยรายหลังสุดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “มันจะมีการถ่ายโอนอย่างราบรื่น โดยไม่พิจารณาว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร”
ทรัมป์ ซึ่งมีคะแนนนิยมตามหลัง โบเดน ในผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ ส่งเสียงคร่ำครวญซ้ำๆ เกือบทุกวันเกี่ยวกับความชอบธรรมของการเลือกตั้ง อ้างโดยไม่มอบหลักฐานใดๆว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์จะนำมาซึ่งการโกงอย่างมโหฬาร
“ประธานาธิบดีทรัมป์ คุณไม่ใช่เผด็จการ และอเมริกาจะไม่ยอมให้คุณเป็นเผด็จการ” ชัค ชูเมอร์ แกนนำเดโมแครตในวุฒิสภาระบุ พร้อมประณามทรัมป์ว่าเป็น “ภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุด” ต่อประชาธิปไตยสหรัฐฯ
ด้าน แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากเดโมแครต เตือนว่า อย่าได้ตื่นตระหนกกับคำพูดของทรัมป์ บุคคลที่เธอเรียกว่าเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากบรรดาผู้นำเผด็จการทั้งหลาย พร้อมเรียกร้องให้อเมริกันชนออกมาลงคะแนนดึงสติของทรัมป์กลับคืนมา “คุณไม่ได้อยู่ในเกาหลีเหนือ คุณไม่ได้อยู่ในตุรกี และคุณไม่ได้อยู่ในรัสเซีย”
ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีเพียงครั้งเดียวที่ต้องขอให้ศาลสูงสุดชี้ขาด คือ การเลือกตั้งในปี 2000 ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน และอัล กอร์ จากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์มีแผนเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ในวันเสาร์ (26 ก.ย.) เพื่อทำหน้าที่แทน รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาแนวเสรีนิยมที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18 ก.ย.) ซึ่งคาดว่า พรรครีพับลิกันที่กุมอำนาจในวุฒิสภาจะโหวตรับรองอย่างรวดเร็ว และทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมมีเสียงข้างมากในศาลสูงสุดถึง 6-3 และสร้างปัญหาใหญ่กับเดโมแครตในกรณีที่ต้องมีการวินิจฉัยข้อขัดแย้งทางกฎหมายเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง
(ที่มา:รอยเตอร์)