xs
xsm
sm
md
lg

ยอดตายจากไวรัสที่ US จ่อทะลุ 200,000 อังกฤษสั่งกักตัวอยู่บ้านสกัดระบาดรอบสอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรยากาศร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านโคเวนต์การ์เดน ของกรุงลอนดอน เมื่อวันอังคาร (22 ก.ย.) ขณะที่ทางการอังกฤษกำลังจะประกาศให้ปิดผับและร้านอาหารต่างๆ ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. เพื่อสกัดโรคโควิด-19 ซึ่งกำลังหวนกลับมาระบาดหนัก
เอเจนซีส์ – ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอเมริกาจ่อ 200,000 คน ขณะที่สถานการณ์ในอังกฤษน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน สื่อเผยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตรียมแถลงขอให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน รวมทั้งปิดผับ บาร์ ร้านอาหารรอบใหม่ หลังผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งรุนแรงในไม่กี่สัปดาห์ ตรงข้ามกับที่เมืองรุ่ยลี่ของจีนที่อยู่ติดกับพม่า ซึ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ที่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ย.) ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในอเมริกาอยู่ที่ 199,743 คน และผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 6.8 ล้านคน

อเมริกาเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตนำโด่งประเทศอื่นๆ มาหลายเดือน หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก โดยที่อัตราตายรายวันเทียบกับประชากรทั้งหมดมากกว่าสหภาพยุโรปถึง 4 เท่า

ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาทุกที เสียงวิจารณ์ความผิดพลาดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการรับมือโรคระบาดจึงยิ่งเซ็งแซ่มากขึ้น

ในวันจันทร์ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต โจมตีว่า การโกหกและไร้ความสามารถของทรัมป์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาทำให้อเมริกาพบการสูญเสียรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

ทว่า ทรัมป์ยืนยันผ่านรายการฟ็อกซ์ แอนด์ เฟรนด์ส ของโทรทัศน์ฟอกซ์นิวส์ว่า อเมริกาใกล้ควบคุมการระบาดได้แล้วไม่ว่าจะมีหรือไม่มีวัคซีนก็ตาม และย้ำว่า ปลายเดือนหน้าอาจมีวัคซีนออกมาแจกจ่ายซึ่งถือเป็นมาตรการความปลอดภัยสูงสุดในการรับมือโรคระบาด และสำทับว่า เมื่อถึงเดือนเมษายนปีหน้าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่ต้องการ จะได้รับวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนา

ทว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่คิดว่า ควรถือการให้วัคซีนเป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่สนับสนุนให้ใช้มาตรการป้องกันทั้งหลาย เป็นต้นว่า การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม และการเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อมากกว่า

โทมัส ไช่ ศัลยแพทย์และนักวิจัยด้านนโยบายสุขภาพของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ชี้ว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำคืออนุมัติการตรวจหาแอนติเจนอย่างรวดเร็วและเข้าถึงประชาชนโดยตรงที่บ้านเพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ เขาบอกว่า ที่คณะบริหารทรัมป์ยังลังเลเพราะเรื่องนี้รัฐบาลกลางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง

ทอม ฟรายเดน อดีตผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ในยุคประธานาธิบดีบารัก โอบามา สำทับว่า โควิดจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ในอเมริกาในปีนี้ ซึ่งสะท้อนความล้มเหลวของมาตรการรับมือระดับประเทศ

ผู้สังเกตการณ์หลายคนวิจารณ์ว่า ทรัมป์ผลักความรับผิดชอบในการรับมือไวรัสและการล็อกดาวน์ให้ผู้ว่าการแต่ละรัฐเป็นคนตัดสินใจ ทำให้นโยบายจัดการไวรัสทั่วประเทศไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

อิริก โทโปล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสคริปส์ สำทับว่า มีแนวโน้มว่า ยอดแท้จริงของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของอเมริกา อาจทะลุ 200,000 คนไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ส่วน ไมเคิล มีนา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของฮาร์วาร์ด เตือนว่า ระบบสาธารณสุขของอเมริกากำลังจะเผชิญบททดสอบสำคัญ จากแนวโน้มการระบาดของไวรัสโคโรนาและไข้หวัดใหญ่พร้อมกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสต็อกวัคซีนไข้หวัดใหญ่จำนวนมาก

สำหรับที่อังกฤษ สื่อรายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตรียมปราศรัยในช่วงเย็นวันอังคาร (22) เพื่อขอให้ประชาชนทำงานอยู่บ้านถ้าทำได้ รวมทั้งปิดผับ บาร์ ร้านอาหาร และธุรกิจบริการต้อนรับอื่นๆ ทั่วประเทศในช่วงเวลา 22.00 น. จนถึง 05.00 น. ตั้งแต่วันพฤหัสฯ (24) เพื่อสกัดการระบาดรอบสองของไวรัสโคโรนา หลังจากเมื่อวันจันทร์ คริส วิตตี และแพทริก วัลแลนซ์ ที่ปรึกษาใหญ่ด้านสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล เตือนว่า อัตราการเสียชีวิตในอังกฤษอาจเพิ่มขึ้นทวีคูณภายในไม่กี่สัปดาห์ เว้นแต่รัฐบาลจะออกมาตรการเร่งด่วน

ขณะนี้ จำนวนเคสใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้นวันละอย่างน้อย 6,000 คน และจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นสองเท่าทุก 8 วัน นอกจากนั้นอังกฤษยังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในยุโรปและอันดับ 5 ของโลก

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนทั่วอังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการจำกัดเข้มงวดบางอย่าง แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จอห์นสันจะประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเหมือนในเดือนมีนาคม

ตรงข้ามกับที่เมืองรุ่ยลี่ ในมณฑลยูนนานของจีนที่อยู่ติดกับพรมแดนพม่าซึ่งโควิดกำลังระบาดหนัก รัฐบาลท้องถิ่นประกาศเมื่อวันจันทร์ยกเลิกคำสั่งกักตัวอยู่บ้านมีผลทันที หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 2 รายและเดินทางมาจากพม่าทั้งคู่

อย่างไรก็ดี ทางการยังคงปิดโรงภาพยนตร์ บาร์ และอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ต่อไป

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ขณะออกจากทำเนียบเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง  เมื่อเช้าวันอังคาร (22 ก.ย.) เพื่อไปแถลงที่รัฐสภา เรื่องมาตรการเข้มเพื่อรับมือการระบาดรอบสองของโควิด-19
กำลังโหลดความคิดเห็น