อังกฤษเตรียมใช้มาตรการคุมเข้มขึ้นไปอีกขั้น เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังมีคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันอาจสูงถึง 50,000 คน ภายในอีก 2 เดือน หากปราศจากมาตรการควบคุมโรคที่ได้ผล
ข้อบังคับใหม่ซึ่งจะมีผลในวันพฤหัสบดีนี้ (24 ก.ย.) กำหนดให้ผับ บาร์ และธุรกิจบริการต่างๆ ต้องปิดในเวลา 22.00 น. ในขณะที่ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ก็จะต้องมีพนักงานบริการถึงโต๊ะ (table service) เท่านั้น
คำสั่งยกระดับควบคุมโรคมีขึ้นหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (21) ว่า อังกฤษอาจจะมีผู้ติดรายใหม่ถึง 50,000 คนต่อวัน ในช่วงกลางเดือน ต.ค. และในอีก 1 เดือนถัดมา จะมีผู้เสียชีวิตเกิน 200 คนต่อวัน
คริส วิตตี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ ระบุว่า อัตราการแพร่เชื้อในเมืองผู้ดีเวลานี้ เพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุกๆ 7 วัน ซึ่งคล้ายกับสถานการณ์ในฝรั่งเศสและสเปน
“อัตราการแพร่เชื้อกำลังเพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ เราจึงขอให้ประชาชนเคารพและปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม” วิตตี้ ระบุ “นี่ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของพวกเราทุกคน”
ขณะเดียวกัน ศูนย์ความมั่นคงทางชีวภาพร่วม (Joint Biosecurity Centre) ของรัฐบาลอังกฤษก็ได้ยกระดับคำเตือนโควิด-19 จากระดับ 3 ขึ้นสู่ระดับที่ 4 ซึ่งหมายถึง “มีอัตราการแพร่เชื้อสูงหรือเพิ่มขึ้นแบบยกกำลัง”
นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เตรียมเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในเช้าวันนี้ (22) ก่อนที่จะมีถ้อยแถลงต่อรัฐสภาในช่วงบ่าย และจะเปิดการแถลงข่าวสดผ่านสื่อโทรทัศน์ในเวลา 19.00 GMT เพื่อแจกแจงรายละเอียดของมาตรการใหม่ที่มุ่งลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูการระบาดของโรคทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ
จอห์นสัน ยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อังกฤษกำลังเผชิญการระบาดระลอกสอง เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในยุโรป โดยเมื่อวานนี้ (21) มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 4,368 ราย ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.
แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ แถลงต่อรัฐสภาว่า “ไวรัสกำลังแพร่กระจาย เรากำลังก้าวสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ และทุกคนจะต้องมีส่วนช่วยกันยับยั้งมัน”
อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกือบ 42,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดของภูมิภาคยุโรป ขณะที่มาตรการชัตดาวน์นานหลายเดือนได้ฉุดเศรษฐกิจเมืองผู้ดีเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง
รัฐบาลอังกฤษกำหนดวงเงินค่าปรับสูงสุด 10,000 ปอนด์ หรือราวๆ 400,000 บาท สำหรับพลเมืองกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยแต่ไม่ยอมกักตัว และตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. เป็นต้นไป บุคคลใดก็ตามที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก หรือได้รับคำสั่งจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ให้ต้องกักตัวเอง ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามนั้น
ที่มา: เอเอฟพี