ส่อวุ่นอีก! ทรัมป์ขู่ล้มข้อตกลง “ติ๊กต็อก” ขวางบริษัทจีนถือหุ้นใหญ่

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันจันทร์ (21 ก.ย.) โยนข้อตกลงปฏิรูปโครงสร้างความเป็นเจ้าของติ๊กต็อก แอปพลิเคชันวิดีโอยอดนิยม เข้าสู่เครื่องหมายคำถาม หลังประกาศกร้าวว่าจะบล็อกข้อตกลงใดๆ ที่ยอมให้บริษัทแม่สัญชาติจีนยังคงมีอำนาจควบคุมอยู่

คำขู่นี้ก่อความกังวลรอบใหม่แก่ข้อตกลงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่ดูท่าจะช่วยให้ “ติ๊กต็อก” รอดพ้นการถูกแบนในสหรัฐฯ ตามคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกล่าวหาแอปพลิเคชันวิดีโอยอดนิยมว่าเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ ออราเคิล เป็นหุ้นส่วนข้อมูลของติ๊กต็อก โดยที่ วอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่จะเข้าถือหุ้นในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “ติ๊กต็อกโกลบัล”

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดต่างๆ ของแผนการยังคงไม่ชัดเจน ทั้งในแง่สัดส่วนการถือหุ้นของฝ่ายอเมริกาและฝ่ายจีนในบริษัทแห่งใหม่ และใครจะเป็นผู้ดูแลควบคุมอัลกอริธึมและข้อมูลต่างๆ

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ในวันจันทร์ (21 ก.ย.) ว่า ไบต์แดนซ์บริษัทแม่ของติ๊กต็อก “จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับมัน แต่ถ้าพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อนั้นเราก็แค่ไม่ทำข้อตกลง”

ผู้นำสหรัฐฯ บอกต่อว่า ออราเคิลและวอลมาร์ท “จะต้องควบคุมมันโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะทำมันเพื่อควบคุมผลประโยชน์ของตนเอง ถ้าเราพบว่าพวกเขาไม่ได้ควบคุมโดยสิ้นเชิง เมื่อนั้นเราก็จะไม่อนุมัติข้อตกลง”

ไบต์แดนซ์ ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันจากจีน ไม่ให้ยอมทำตามคำเรียกร้องของสหรัฐฯ ระบุว่าทางบริษัทจะถือหุ้น 80% ในติ๊กต็อกโกลบัล หลังการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก พร้อมบอกว่าแผนในปัจจุบันไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนอัลกอริธึมและเทคโนโลยีให้พันธมิตรอเมริกัน และยืนยันว่ารายงานข่าวที่นำเสนอตรงข้ามกันนั้นเป็นเพียง “ข่าวลือ”

ก่อนหน้านี้ ถ้อยแถลงของทางออราเคิลนำเสนอมุมมองที่ต่างออกไปเกี่ยวกับการถ่ายโอน “เมื่อจัดตั้งติ๊กต็อกโกลบัล ออราเคิล/วอลมาร์ท จะทำการลงทุน และหุ้นของติ๊กต็อกโกลบัล จะถูกแจกจ่ายแก่เจ้าของ ฝ่ายอเมริกาจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และไบต์แดนซ์จะไม่ได้เป็นเจ้าของติ๊กต็อกโกลบัล” รองประธานออราเคิลกล่าว

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ติ๊กต็อกตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้นระหว่างจีนกับตะวันตก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์หยิบยกประเด็นด้านความมั่นคงแห่งชาติและท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนมาเป็นแก่นกลางของการหาเสียง ทั้งนี้เขากล่าวหาโดยปราศจากให้หลักฐานใดๆ ว่า ติ๊กต็อกรวบรวมข้อมูลผู้ใช้มอบให้รัฐบาลปักกิ่ง

(ที่มา : เอเอฟพี)