“ทรัมป์” หลุดปากยอมรับต้องการลอบสังหารประธานาธิบดีซีเรีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างว่าเขาต้องการ “กำจัด” ประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด แห่งซีเรียในปี 2017 แต่ถูกห้ามปรามจาก เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมขณะนั้น หลังจากก่อนหน้านี้ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เคยแม้แต่มีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับปฏิบัติการลอบสังหาร

“ผมอยากกำจัดเขามากกว่า” ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับรายงานฟ็อกซ์แอนด์เฟรนด์สในวันอังคาร (15 ก.ย.) พร้อมยืนยันว่า “สำหรับเขา ผมเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ แมตทิส ไม่ต้องการทำมัน”

มีข่าวว่าทรัมป์ขบคิดเกี่ยวกับการลอบสังหาร อัสซาด หลังประธานาธิบดีซีเรีย ใช้สารเคมีโจมตีพลเรือนในเดือนเมษายน 2017

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ ‘Fear : Trump in the White House’ ที่เขียนโดย บ็อบ วูดเวิร์ด ผู้สื่อข่าวคนดังซึ่งเคยรายงานคดีวอเตอร์เกต ถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในปี 2018 อ้างว่าระหว่างการประชุมสรุปในทำเนียบขาว ทรัมป์ สั่งให้กองทัพลอบสังหารประธานาธิบดีซีเรียหนึ่งปีก่อนหน้านั้น แต่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ณ ขณะนั้นไม่เอาด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทรัมป์ แก้ต่างว่า “ไม่เคยแม้แต่จะคิดและไม่เคยหารือ” กับ แมตทิส เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลอบสังหารอัสซาด และรายงานที่ออกมาเป็นเพียงนิยาย

กระนั้นล่าสุดระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์แอนด์เฟรนด์ส ทรัมป์ บอกว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีกลาโหม “แมตทิสคัดค้านเรื่องนี้เกือบทั้งหมด” ประธานาธิบดีกล่าว แต่ระบุว่าเขาไม่รู้สึกเสียดายอะไรที่อัสซาดไม่ได้ถูกสังหาร

ทรัมป์กล่าวโทษแมตทิสต่อกรณี “ไม่ยอมทำงานของตนเองในซีเรียหรืออิรัก ในเรื่องเกี่ยวกับพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส)” พร้อมอ้างว่าสหรัฐฯ กำจัดพวกไอเอสได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ อาบู บักร์ อัล-บักดาดี ผู้นำสูงสุดของทางกลุ่ม แต่มันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาไล่ แมตทิส ออกจากตำแหน่งไปแล้ว

แมตทิส ลาออกอย่างครึกโครม จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ในเดือนธันวาคม 2018 โดยอ้างในจดหมายลาออกว่าเขาตัดสินใจสละเก้าอี้เพื่อประท้วงความพยายามของประธานาธิบดีที่ต้องการถอนกำลังออกจากซีเรีย และทำตามคำสัญญาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งนำทหารอเมริกันกลับบ้าน และพาสหรัฐฯ ออกจาก “สงครามที่ไม่สิ้นสุด” ในความขัดแย้งต่างๆ ในตะวันออกกลาง

การลาออกของแมตทิส มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากทรัมป์ ประกาศแผนถอนกำลังทหารออกจากซีเรีย แต่ก่อนที่กระทรวงกลาโหมเผยแพร่จดหมายของแมตทิสนั้น ทรัมป์ได้ทวิตข้อความว่า รัฐมนตรีกลาโหมของเขาจะลาออก “ด้วยความคิดเห็นที่แตกต่าง” และยังได้ชื่นชมแมตทิสสำหรับการช่วยงานในหน้าที่ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม

แม้สัญญาว่าจะออกจากสงครามไม่มีที่สิ้นสุด แต่สหรัฐฯภายใต้การนำของทรัมป์ก็ยังคงติดหล่มอยู่ในความขัดแย้งต่างๆ ในตะวันออกกลาง พวกเขาได้ส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไหลบ่าเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย โดยอ้างว่าเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามของอิหร่าน และเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ได้กล่าวหาเตหะรานวางแผนสังหารทูตสหรัฐฯ คนหนึ่ง เพื่อแก้แค้นให้แก่นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ที่ถูกอเมริกาปลิดชีพเมื่อ 8 เดือนก่อน ข้อกล่าวหาที่ทางรัฐบาลอิหร่านปฏิเสธโดยสิ้นเชิง

(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)