มั่นใจสุดๆ ว่าจะได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 อย่างแน่นอน ล่าสุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยที่รัฐเนวาดาเมื่อวันเสาร์ (12 ก.ย.) ว่าจะลองเจรจาเพื่อเป็นประธานาธิบดีต่อเนื่องถึง 3 สมัย โดยอ้างว่าตนควรได้รับสิทธิ์นั้น
“อีก 52 วันนับจากนี้เราจะชนะที่เนวาดา และเราจะชนะอีก 4 ปีในทำเนียบขาว” ทรัมป์ บอกกับผู้สนับสนุนซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากาก และไม่แคร์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมใดๆ “และหลังจากนั้นเราจะลองเจรจาดูดีไหม? เพราะจากสิ่งที่พวกเราโดนกระทำมา เราน่าจะมีสิทธิ์อยู่ต่ออีก 4 ปีหลังจากนั้น”
ทรัมป์ มักพูดเสมอว่าตนถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเมื่อเทียบกับผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนๆ โดยอ้างไปถึงเรื่องที่ทีมหาเสียงของตนถูกครหาว่าสมคบกับรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งเมื่อปี 2016 รวมถึงกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี
ทรัมป์ เคยกล่าวที่รัฐวิสคอนซินเมื่อเดือน ส.ค. ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้นำสหรัฐฯ ถึง 3 สมัย
“เราจะชนะอีก 4 ปีแน่นอน” ยาฮูนิวส์อ้างคำพูด ทรัมป์ เมื่อเดือนที่แล้ว “และหลังจากนั้นเราก็จะสู้ต่ออีก 4 ปี พวกเขาสอดแนมทีมหาเสียงของผม เราจึงควรได้สิทธิ์อยู่ต่ออีก 4 ปี”
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทรัมป์ก็เคยแสดงท่าทีชื่นชม สี จิ้นผิง ที่ยกเลิกจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีจีน
“เขาจะเป็นประธานาธิบดีไปชั่วชีวิต ประธานาธิบดีตลอดชีพ เขาเจ๋งมากจริงๆ” ทรัมป์ กล่าวในเดือน มี.ค.ปี 2018 “และดูสิว่าเขาทำได้ ผมว่ามันยอดเยี่ยมมาก บางทีสหรัฐฯ ก็น่าจะลองดูบ้างสักวันหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อเดือน พ.ย.ปีเดียวกันว่าตนไม่คิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางอยู่ต่อเกิน 2 สมัย และยังบอกในรายการ Meet the Press เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้วว่าที่ออกมาพูดบ่อยๆ ว่าจะเป็นประธานาธิบดีเกิน 2 สมัยนั้น “แค่ล้อเล่น”
ประธานานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน และ โทมัส เจฟเฟอร์สัน ได้วางกฎแบบไม่เป็นทางการให้ผู้นำสหรัฐฯ ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย ทว่าประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ก็เคยชนะศึกเลือกตั้งถึง 4 ครั้งในปี 1932, 1936, 1940 และ 1944 ซึ่งทำให้เขาครองอำนาจบริหารประเทศอยู่นานถึง 12 ปี กระทั่งในปี 1951 สภาคองเกรสจึงได้มีมติเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 22 (22nd Amendment) ซึ่งจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่เกิน 2 สมัย
ที่มา : Business Insider
