เอพี – กระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์วันอาทิตย์(13 ก.ย) ออกมาตอบโต้รายงานสหรัฐฯถึงความต้องการเพิ่มศักยภาพทางทหารของปักกิ่งโดยระบุว่า อเมริกาเป็นต้นตอภัยคุกคามเสรีภาพโลกและการจัดการระหว่างประเทศ
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(12 ก.ย)ว่า แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมที่เกิดขึ้นวันอาทิตน์(13) เกิดขึ้นหลังการรายงานประจำปีของกระทรวงเพนตากอนสหรัฐฯต่อสภาคองเกรสถึงความก้าวหน้าทางการทหารจีนและเป้าหมาย โดยชี้ว่าเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อผลประโยชน์สหรัฐฯและความมั่นคงต่อกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมจีน พันเอก วู เฉียน (Wu Qian) เรียกรายงานฉบับนี้ว่า “เป็นการบิดเบือนของหญิงเสเพลแบบสหรัฐฯ” ต่อเป้าหมายของจีนและความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพปลดจีนและประชาชนจีน 1.4 ล้านคน
“หลักฐานมากมายในช่วงหลายปีแสดงให้เห็นว่าเป็นที่ “สหรัฐฯ” ที่เป็นตัวกลางทำให้เกิดความไม่สงบในภูมิภาค เป็นผู้ละเมิดหลักเกณฑ์ระหว่างประเทศและเป็นผู้ทำลายสันติภาพโลก” เขากล่าว
ปฎิบัติของสหรัฐฯในอิรัก ซีเรีย ลิเบีย และประเทศอื่นๆอีกมากมายในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมาส่งผลทำให้มีการเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 800,000 คน และพลัดถิ่นอีกหลายล้านคน เฉียนชี้
และเสริมต่อว่า “แต่แทนที่จะพิจารณาตัวเอง สหรัฐฯกลับออกคำสั่งที่เรียกในนามรายงานซึ่งเต็มไปด้วยความเห็นที่เป็นเท็จเกี่ยวกับการปกป้องประเทศแบบปกติและการก่อสร้างทางการทหารของปักกิ่ง”
ในการแถลงวันอาทิตย์(13) โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนยังกล่าวว่า “ทางเราขอเรียกร้องให้สหรัฐฯมองการปกป้องประเทศและการก่อสร้างทางการทหารของจีนอย่างเป็นธรรมและมีเหตุผล หยุดสร้างข้อมูลที่เป็นเท็จรวมไปถึงรายงานเหล่านี้ และมีการกระทำอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นเครื่องป้องกันต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้เป็นการพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง”
เอพีรายงานว่า รายงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจำนวน 150 หน้าที่ยื่นต่อรัฐสภาสหรัฐฯนั้นส่วนใหญ่มีเนื้อหาไปที่การวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ของจีนที่มีต่อไต้หวัน โดยในรายงานกล่าวว่า หากจีนเกิดใช้กำลังทหารเพื่อเข้าผนวกไต้หวันเป็นดินแดนของตัวเองนั้นจะมีความสลับซับซ้อนและจะทำให้เกิดความเสี่ยงทางการเมืองเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ในตัวรายงานยังกล่าวไปถึงศักยภาพทางการทหารของกองทัพจีน PLA ที่มีกองกำลังร่วม 2 ล้านนายถือเป็นกองกำลังทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ รวมไปถึงขนาดของกองทัพเรือที่ในเวลานี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก มีเรือรบทั้งหมด 350 ลำรวมเรือดำน้ำ เปรียบเทียบกับกองทัพเรือสหรัฐฯที่มีเรือรบแค่ 293 ลำเท่านั้น