มีบุคคลรายที่ 2 เสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2021 กรณีที่เขามีส่วนช่วยเซอร์เบียและโคโซโว บรรลุข้อตกลงคืนสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสู่ปกติ ไม่กี่วันหลังจากเขาเพิ่งได้รับการเสนอชื่อจากบทบาทของเขาในข้อตกลงระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับอิสราเอล
ในความเคลื่อนไหวล่าสุด ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่อจาก แมกนุส จาค็อบส์สัน สมาชิกรัฐสภาสวีเดน ซึ่งแถลงเมื่อวันศุกร์ (11 ก.ย.) ว่าเขาเสนอชื่อรัฐบาลของทรัมป์ พร้อมด้วยเซอร์เบียและโคโซโว “สำหรับความร่วมมือเพื่อความก้าวหน้าของสันติภาพและเศรษฐกิจ”
ข้อตกลงความร่วมมือที่ลงนาม ณ ทำเนียขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกเหนือจากที่ทั้ง 2 ศัตรูจะยินยอมคืนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับปกติแล้ว มันยังรวมไปถึงการที่ โคโซโว ให้การรับรองอิสราเอล และเซอร์เบีย ตกลงที่จะย้ายสถานทูตของพวกเขาไปยังเยรูซาเลม
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เปิดให้ประมุขแห่งรัฐ นักการเมืองระดับประเทศ อาจารย์มหาวิทยาลัย และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาต่างๆ ร่วมเสนอชื่อบุคคลเพื่อชิงตำแหน่ง และจดหมายเสนอชื่อที่ยื่นต่อคณะกรรมการโนเบลคือก้าวย่างแรกของกระบวนการ ซึ่งจนถึงตอนนี้มีผู้ถูกเสนอชื่อสำหรับรางวัลปี 2020 แล้ว 318 คน
ตัวของผู้ได้รับรางวัลจะตัดสินโดยคณะกรรมการโนเบล 5 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภานอร์เวย์ ทั้งนี้สำหรับผู้ชนะเลิศรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสำหรับปี 2021 จะมีการประกาศผลอย่างเร็วที่สุดคือเดือนตุลาคมปีหน้า
เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์เพิ่งรายงานว่า ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่อเพื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2021 โดย Christian Tybring-Gjedde สมาชิกรัฐสภานอร์เวย์ ซึ่งอ้างอิงบทบาทของทรัมป์ในการเป็นคนกลางของข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“ด้วยความดีความชอบของเขา ผมคิดว่าเขาพยายามสร้างสันติภาพระหว่างประเทศมากกว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อรางวัลสาขาสันติภาพคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เสียอีก” Tybring-Gjedde สมาชิกรัฐสภา 4 สมัยและทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้แทนนอร์เวย์ของรัฐสภานาโตกล่าวกับ Fox News ในการสัมภาษณ์พิเศษ
ในจดหมายเสนอชื่อต่อคณะกรรมการโนเบลระบุว่า รัฐบาลของทรัมป์มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเคยเป็นคู่ตรงข้ามกันมาก่อน และผู้เสนอชื่อคาดว่าประเทศในตะวันออกกลางอื่นๆ จะเดินตามรอยของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และข้อตกลงนี้อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่จะเปลี่ยนตะวันออกกลางให้เป็นภูมิภาคแห่งความร่วมมือและความมั่งคั่ง
นอกจากนี้แล้วเขายังยกย่อง ทรัมป์ ต่อความเคลื่อนไหวปรับลดกำลังทหารในตะวันออกกลาง
ไม่ใช่ปีแรกที่ ทรัมป์ ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยในปี 2018 ทาง Tybring-Gjedde กับเจ้าหน้าที่นอร์เวย์อีกคน ก็เคยเสนอชื่อ ทรัมป์ มาแล้ว ตามหลังการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ไม่ได้รับเลือก
(ที่มา : ฟ็อกซ์นิวส์)