ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 10,561 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในวันเสาร์(12ก.ย.) ถือเป็นสถิติใหม่ของตัวเลขรายวัน และเป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10,000 คน นับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศแห่งนี้
ตัวเลขรายวันล่าสุด ทุบสถิติเดิมที่เพิ่งทำเอาไว้เมื่อวันพฤหัสบดี(10ก.ย) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อใหม่ 9,843 คน ตอกย้ำว่าฝรั่งเศสกำลังเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 373,911 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องวางกรอบมาตรการต่างๆเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์(11ก.ย.) เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ซึ่งเคยบังคับใช้ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์ สั่งยกระดับการตรวจเชื้อและใช้มาตรการรระดับท้องถิ่นเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดหนักหน่วง
ในการอัพเดทข้อมูลรายวัน กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสรายงานว่ากำลังทำการสืบสวนการแพร่กระจายกลุ่ม 772 กลุ่ม เพิ่มขึ้น 86 กลุ่มในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พร้อมเผยว่าตลอดสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ 2,432 คน ในนั้น 417 คนที่อาการหนักถึงขั้นต้องเข้าห้องไอซียู
ยอดผู้เสียชีวิตทั้งตามโรงพยาบาลและบ้านพักคนชราทั้งหลายทั่วฝรั่งเศส นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นเมื่อช่วงต้นปี แตะระดับ 30,910 คน หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 17 คน
นายกรัฐมนตรีกัสเต็กซ์ เตือนเมื่อวันศุกร์(11ก.ย.) ชัดเจนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศของเขา "กำลังเลวร้ายลง" และตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คือสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่ได้แถลงมาตรการสำคัญๆใหม่ๆออกมา แถมยังปรับลดช่วงเวลากักกันโรคของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเดิม 14 วัน เหลือเพียง 7 วัน "เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับไวรัส โดยไม่หวนคืนสู่แนวคิดของการล็อกดาวน์ทั่วไป" เขาแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์จากทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงปารีส
ทั้งนี้ตัว กัสเต็กซ์ เองเพื่อสิ้นสุดการกักกันโรค เมื่อมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นลบ หลังตกอยู่ในข่ายเสี่ยง จากการที่ คริสติยอง พรูว์ดอมม์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันจักรยานตูร์เดอฟรองซ์ ซึ่งโดยสารรถยนต์คันเดียวกับเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)