ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยอมรับในวันอังคาร (9 ก.ย.) ว่า เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้จ่ายเงินทองส่วนตัวของเขาเองบางส่วนในการหาเสียงเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยหนึ่ง ภายหลังจากทีมงานรณรงค์ของเขาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องจักรระดมเงินทุนที่กล้าคุยโอ่คำโต กลับแสดงให้เห็นสัญญาณว่าประสบความยากลำบาก
“ถ้าผมจำเป็นต้องทำ ผมก็จะทำ” ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามเรื่องที่อาจต้องควักเงินตัวเองออกมาใช้จ่าย พร้อมกับย้ำว่า “ไม่ว่ามันจะต้องใช้กันสักเท่าไร เราก็จะต้องชนะ”
โดยทางพฤตินัยแล้ว ทรัมป์รณรงค์หาเสียงเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง ในตลอดการทำงานเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกของเขาทีเดียว โดยที่จัดทำเอกสารยื่นแสดงความจำนงลงสมัครอีกสมัยในวันเดียวกับที่เขาทำพิธีสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2017
ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2019 มา ทีมรณรงค์หาเสียงของเขาใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนราวๆ 800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกว่า 2 เท่าตัวของที่ โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตของเขาใช้ไป
แต่ทั้งๆ ที่เดินหน้าไปก่อนเช่นนี้ โดยที่ทีมหาเสียงของเขาพูดอวดตัวเองว่าเป็น “พลังยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้” เวลากลับมีรายงานว่าขบวนรถไฟทรัมป์กำลังเจอกำแพงเครื่องกีดขวางทางการเงินเสียแล้ว
ไบเดน ผู้ซึ่งเริ่มต้นการต่อสู้ชิงทำเนียบขาวสมัยนี้ของเขาด้วยความพยายามอันเชื่องช้าและมีเงินทุนใช้จ่ายน้อยนิด กลับสร้างเซอร์ไพรซ์ให้ผู้คนจำนวนมากด้วยการแซงหน้าทรัมป์ในการระดมทุนหาเสียงช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้เม็ดเงินมา 365 ล้านดอลลาร์ ทำลายสถิติรายเดือนก่อนหน้านี้กันแหลกลาญ
และทั้งๆ ที่ทรัมป์วิ่งไปก่อนนมนานด้วยการใช้จ่ายทุ่มเทกันหนักหน่วงแล้ว เวลานี้ไบเดนกลับยังคงเป็นผู้นำอย่างเหนียวแน่นในผลโพลสำนักต่างๆ
ยิ่งเหลือเวลาอีกเพียง 8 สัปดาห์เท่านั้นก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน ทรัมป์จะพบว่าบิลค่าใช้จ่ายกำลังสูงลิ่วขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาต้องเร่งมือในการเดินทางไปหาเสียง เข้าถึงผู้ออกเสียงด้วยวิธีนานา และเหนือสิ่งอื่นใด จะต้องทุ่มโฆษณาทางทีวีซึ่งแสนแพง
บทความชิ้นหนึ่งในนิวยอร์กไทมส์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7) มุ่งฉายภาพไปที่การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายภายใต้ แบรด พาร์สเกล ผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงทรัมป์คนเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโฆษณาทางทีวี 2 ชิ้นซึ่งออกอากาศในช่วงซูเปอร์โบลว์ ซึ่งมีรายงานว่าใช้จ่ายกันไป 11 ล้านดอลลาร์
นิสัยการใช้จ่ายส่วนตัวของพาร์สเกล เป็นต้นว่า การว่าจ้างคนขับรถให้แก่ตัวเขาเอง เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการดำเนินงานของทีมงานนี้ บทความดังกล่าวระบุ โดยที่ บิลล์ สเตเปียน ผู้ซึ่งเข้ามาแทนที่พาร์สเกลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ถือเอาการตัดลดค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ
สำหรับทรัมป์นั้น เขาโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ บอกว่าอุปสรรคทางการเงินใดๆ ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของพวกสื่อ เนื่องจากเขา “ถูกบังคับให้ต้องใช้จ่ายเพื่อต่อสู้ต้านทานกับ ข่าวปลอม”
“เราเคยทำมาแล้ว และกำลังทำอยู่ งานที่สุดแสนยิ่งใหญ่ และยังมีเงินทองเหลืออีกเยอะแยะ” เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้คุยในทวิตเตอร์
(ที่มา: เอเอฟพี, เอเจนซีส์)