ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบราซิล ทะลุ 4 ล้านคนในวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าการแพร่ระบาดเริ่มชะลอตัวลงในชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดอันดับ 2 ของโลก
นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้มียอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 4.04 ล้านคนแล้วในวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) ในนั้นเสียชีวิตกว่า 124,600 คน มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 44,000 คน และเสียชีวิต 834 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขบราซิลบอกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงเล็กน้อยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวังว่าโรคระบาดใหญ่ได้ผ่านจุดพีกสุดแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือนที่ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ระดับเกินกว่า 1,000 คน
ตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม บราซิลมีค่าเฉลี่ยเสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันที่ 870 คน และติดเชื้อใหม่ 40,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์อิสระเรียกร้องให้พินิจพิเคราะห์ตัวเลขด้วยความระมัดระวัง
“นี่คือจุดเริ่มต้นในสิ่งที่เราหวังไว้ ซึ่งก็คือแนวโน้มที่ดีขึ้น” เมาริซิโอ ซานเชซ นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยบราซิเลียกล่าว อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าแนวโน้มนี้ยังคงไม่นิ่ง และบอกว่าเคสผู้ติดเชื้อต้องชะลอตัวลงต่อเนื่องอีก 2 หรือ 3 สัปดาห์ ถึงสามารถสรุปได้
เปาโล โลตูโฟ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยเซาเปาลู บอกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวบ่งชี้ว่าบราซิลอาจอยู่บนเส้นทางที่ใกล้จะดีขึ้น “ในช่วง 2 เดือนหลัง เราเห็นเส้นโค้งที่ผสมผสานของหลายภูมิภาค บางส่วนเพิ่มขึ้น แต่ที่อื่นๆ กำลังลดลง” เขากล่าว พร้อมชี้ว่าพบเห็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในภาคใต้และตะวันตกตอนกลาง ส่วนเมืองเซาเปาลู และรีโอเดจาเนโร เช่นเดียวกับทางภาคเหนือของประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง
พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สถานการณ์อาจเลวร้ายลงอย่างฉับพลัน หากรัฐบาลท้องถิ่นและระดับรัฐยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันจากภาคธุรกิจที่ขอให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป และหากประชาชนเพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว พบเห็นชายหาดต่างๆ ในรีโอเดจาเนโร อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่ไม่สวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
เวลานี้หลายเมืองของบราซิลกำลังศึกษาหาแนวทางและกำหนดการเปิดโรงเรียน หลังจากบาร์ ร้านอาหาร สถานออกกำลังกายและโบสถ์ได้เปิดทำการไปแล้ว แต่มีข้อแม้ว่าต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด
ยุทธศาสตร์ควบคุมการแพร่ระบาดของบราซิลถูกกัดเซาะจากการขาดแนวทางแห่งความร่วมมือ ในขณะที่ ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล คัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ของบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ
นอกจากนี้แล้ว บ่อยครั้งที่ โบลโซนารู เพิกเฉยต่อคำแนะนำเกี่ยวกับการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเดินออกไปยังลานกว้างของทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อพบปะกับบรรดาผู้สนับสนุน และเขายังคงทำแบบนั้น แม้กระทั่งหลังจากผลการตรวจโควิด-19 ของเขาออกมาเป็นบวกเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
ผู้นำฝ่ายขวารายนี้โต้แย้งว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์นั้นเลวร้ายกว่าตัวไวรัสเองเสียอีก ในขณะที่เขาเคยปฏิสธความรุนแรงของโควิด-19 โดยบอกว่ามันเป็นแค่ไข้หวัดเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถรักษาหายได้ด้วยวิธีการต่างๆ ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ในนั้นรวมถึงการใช้ยาต่อต้านมาลาเรีย “ไฮดรอกซีคลอโรควิน”
โบลโซนารู ยังสั่งปลดรัฐมนตรีสาธารณสุข 2 คนในระยะเวลาห่างกันไม่กี่สัปดาห์ หลังมีปัญหาไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับแนวทางรับมือกับโรคระบาดใหญ่
(ที่มา : เอเอฟพี)
