เอเอฟพี - บราซิล ชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หนักหน่วงที่สุดในละตินอเมริกา พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 5,000 คน จากคำแถลงของกระทวงสาธารณสุขของประเทศ ส่งผลให้ยอดเหยื่อของโรคระบาดใหญ่แซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล แถลงเมื่อวันอังคาร (28 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 474 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 5,107 คน ส่วนจำนวนผู้ตติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 71,886 คน
จีน แหล่งอุบัติของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ก่อนที่มันจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,633 คน ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 82,858 คน ซึ่งมีแนวโน้มว่า บราซิล อาจแซงได้เช่นกัน
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลยอมรับยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตอีก 1,156 คนที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุการตาย
พวกผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการ 12 ถึง 15 เท่า สืบเนื่องจากจำนวนมากเป็นเคสไม่แสดงอาการ ขณะที่การตรวจโรคยังเข้าไม่ถึงประชากรทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 210 ล้านคน
ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งประกาศบังคับใช้โดยบรรดาผู้ว่าการรัฐเพื่อสกัดการแพร่ระบาด โดยบอกว่ามันกำลังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เศรษฐกิจ และเดินหน้าอย่างสุดกำลังในความพยายามผลักดันให้กลับมาเดินเครื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 19 เมษายน โบลโซนารู ถึงขั้นเข้าร่วมกับผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ซึ่งรวมตัวกันอยู่ด้านนอกกองบัญชาการกองทัพในกรุงบราซิเลีย เพื่อประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากก่อนหน้านั้น 2 วัน เขาสั่งปลดรัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งมีความเห็นต่างกับเขาเกี่ยวกับแนวทางจัดการวิกฤตโควิด-19 โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขสนับสนุนมาตรการล็อกดาวน์
ในวันอังคาร (28เม.ย.) พอถูกถามเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โบลโซนารู ตอบว่า “แล้วยังไง ผมเสียใจกับเรื่องนี้ แต่คุณอยากให้ผมทำอะไรล่ะ?” เขากล่าว “ผมคือ Messias” อ้างถึงชื่อกลางของเขาซึ่งหมายความว่า Messiah (เมสสิยาห์ หรือพระคริสต์) “แต่ผมไม่มีปาฏิหาริย์”
เซาเปาลู รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ซึ่งมีผู้ติดเชื้อราวๆ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั้วประเทศ มีแผนกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม
ส่วนรัฐริโอเดจาเนโร และรัฐมีนัสเชไรส์ กำลังตระเตรียมมาตรการแบบเดียวกัน ในขณะกรุงบราซิเลียและรัฐซันตากาตารีนา ทางภาคใตัของประเทศ ได้กลับมาเปิดเศรษฐกิจแล้วบางประเภท