รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิลออกมาเรียกร้องวานนี้ (24 มี.ค.) ให้ประชาชน “เลิกหวาดผวา” ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ภายหลังเมืองใหญ่สุดของแดนแซมบ้าประกาศมาตรการล็อคดาวน์เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้วกว่า 2,000 คน
ผู้นำบราซิลได้มีถ้อยแถลงต่อคนทั้งประเทศ โดยเรียกร้องให้นายกเทศมนตรีและผู้ว่าการรัฐต่างๆ ยกเลิกคำสั่งล็อคดาวน์ที่ทำให้รัฐรีโอเดจาเนโรและเซาเปาลูตกอยู่ในสภาพกึ่งอัมพาต
“เราจะต้องกลับสู่ภาวะปกติ” โบลโซนารู กล่าว “รัฐและเมือง 2-3 แห่งควรจะยกเลิกนโยบายสุดโต่งได้แล้ว”
โบลโซนารู เผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักที่ออกมาแสดงความห้าวหาญแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ซ้ำยังดูเบาวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ว่าเป็นแค่ “ความเพ้อฝัน” และ “ไข้หวัดเล็กๆ น้อยๆ” ทั้งที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรวมกันกว่า 420,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วเฉียด 20,000 คน
ชาวบราซิลในรัฐเซาเปาลูและกรุงบราซิเลียพร้อมใจกันออกมาประท้วงด้วยการ ‘เคาะหม้อ’ เพื่อแสดงความไม่พอใจมาตรการตอบสนองของ โบลโซนารู เมื่อวานนี้ (24) ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดพบว่าเรตติ้งของผู้นำบราซิลลดต่ำลงเรื่อยๆ
โบลโซนารู ชี้ว่าชาวบราซิลส่วนใหญ่รวมถึงตัวเขาเอง “ไม่จำเป็นต้องกลัว” และบราซิลจะไม่เผชิญสถานการณ์เลวร้ายอย่างในอิตาลี เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ยังเป็นคนหนุ่มสาว อีกทั้งสภาพอากาศก็อบอุ่นกว่าภูมิภาคยุโรป
“อย่างตัวผมเองเคยเป็นนักกีฬา ถ้าผมติดเชื้อ ผมก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะผมจะไม่รู้สึกอะไรเลย อย่างมากก็แค่เป็นหวัดนิดหน่อยเท่านั้น” เขากล่าว
อิตาลีมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 6,820 คนในวันนี้ (25) ซึ่งมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก
สำหรับบราซิลมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 46 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,247 ราย ตามฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (25)
โรคระบาดใหญ่ (pandemic) คราวนี้ยังส่อแววซ้ำเติมภาพรวมเศรษฐกิจของบราซิล จากสถิติพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้ลดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่วนยอดค้าปลีกในเดือน ม.ค. ก็ดิ่งแรงสุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการจับจ่ายของผู้บริโภคเริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ก่อนที่ไวรัสโคโรนาจะระบาดหนักเสียอีก
2 สายการบินใหญ่ของบราซิลประกาศลดเที่ยวบินในประเทศลงกว่า 90% ไปจนถึงเดือน พ.ค. เป็นอย่างน้อย
ผู้นำบราซิลจุดชนวนข้อพิพาทการทูตกับจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยออกมากล่าวหา ‘ระบอบเผด็จการจีน’ ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้การตอบสนองไวรัสเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น ทว่าล่าสุด โบลโซนารู พยายามผ่อนคลายสถานการณ์ โดยระบุว่าตนได้คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และตกลงว่าทั้ง 2 ชาติจะสู้วิกฤตโรคระบาดคราวนี้ไปด้วยกัน
แหล่งข่าวการทูตจีนระบุว่า จีนซึ่งประสบความสำเร็จในการสกัดเชื้อไวรัสซึ่งอุบัติขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น “ยินดีส่งความช่วยเหลือทางเทคนิคและอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่บราซิลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”