ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสื่อหลายสำนักพบว่า ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่สนับสนุนให้ ชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมวัย 63 ปี นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ขณะที่การแข่งขันเพื่อช่วงชิงตำแหน่งประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ได้เริ่มต้นขึ้นหลังนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ประกาศสละตำแหน่งอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี อิชิบะ ซึ่งเป็นนักวิจารณ์ อาเบะ ตัวยงคงจะต้องฝ่าด่านหินหากคิดจะลงชิงชัยตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยสื่อญี่ปุ่นรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น น่าจะเป็นบุคคลที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มขั้วต่างๆ ภายในพรรคแอลดีพีมากที่สุด
ญี่ปุ่นไม่ได้เปิดให้ประชาชนเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่จะมาจากการลงคะแนนเสียงโดยสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปกติแล้วผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ ก็คือประธานพรรครัฐบาล
ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสำนักข่าวเกียวโดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวญี่ปุ่น 34% สนับสนุนให้ อิชิบะ เป็นนายกฯ ในขณะที่ ซูงะ ซึ่งได้รับความนิยมรองลงมาได้คะแนนโหวตเพียงแค่ 14%
โพลจากนิกเกอิ/ทีวีโตเกียวพบว่า อิชิบะ ได้คะแนนโหวตจากประชาชน 28% ตามมาด้วย ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน (15%) ส่วน ซูงะ นั้นได้คะแนนเป็นอันดับที่ 4 (11%)
ผลโพลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่า มุมมองของสาธารณชนกับทิศทางการเมืองภายในพรรคแอลดีพีสวนทางกันโดยสิ้นเชิง
ซูงะ จัดว่าเป็นผู้สมัครที่มีภาษีดีกว่าเพื่อน และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม ส.ส.ซึ่งนำโดย โทชิฮิโร นิกาอิ เลขาธิการใหญ่พรรคแอลดีพี รวมถึง ส.ส. กลุ่มใหญ่อื่นๆ ทว่าในวันนี้ (31) เจ้าตัวก็ยังคงปฏิเสธที่จะยืนยันกับสื่อมวลชนเรื่องการลงชิงตำแหน่งประธานพรรค
สำหรับ อิชิบะ นั้นเคยพ่ายแพ้ต่อ อาเบะ ในศึกชิงประธานพรรคแอลดีพีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2018 และยังคงไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมพรรคเท่าที่ควร ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ประกาศว่าจะลงชิงชัยอีกครั้งหรือไม่
ด้าน ฟุมิโอะ คิชิดะ หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคแอลดีพี ออกมาแสดงเจตจำนงในการชิงเก้าอี้ประธานพรรคพ่วงนายกฯ แล้ว แต่กลับคะแนนโหวตจากประชาชนน้อยที่สุดในโพลทั้ง 2 ฉบับ
อาเบะ ซึ่งเป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นประกาศสละตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28) โดยอ้างถึงปัญหาสุขภาพจากโรคลำไส้อักเสบที่เป็นมานาน ซึ่งการลาออกของเขาจะนำไปสู่การเลือกตั้งผู้นำพรรคแอลดีพีคนใหม่ที่คาดว่าจะน่าจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย. นี้
แบรด กลอสเซอร์แมน รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Rule-Making Strategies แห่งมหาวิทยาลัยทามะ ให้ความเห็นว่า แม้ ซูงะ จะมีโอกาสนั่งเก้าอี้นายกฯ มากที่สุดเมื่อมองจากกระแสการเมืองภายในพรรคแอลดีพีเอง แต่เขาอาจไม่ใช่ผู้นำที่เหมาะที่สุดสำหรับการนำพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในราวๆ ปลายเดือน ต.ค. ปี 2021
“เขายังขาดทั้งบารมีและวิสัยทัศน์ที่จะนำพาญี่ปุ่นไปสู่ทิศทางใหม่ และดูเหมือนจะเป็นได้แค่เบอร์ 2 ตลอดกาล คือทำในสิ่งที่ อาเบะ เคยสัญญาไว้ให้เป็นจริงเท่านั้น” กลอสเซอร์แมน ระบุ
ที่มา: รอยเตอร์