รอยเตอร์/เอเอฟพี – จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก พุ่งทะลุหลัก 25 ล้านคนแล้วในวันอาทิตย์ (30 ส.ค.) ทั้งนี้ตามรายงานของของสำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งได้จากการรวบรวมตัวเลขในข้อมูลของทางการประเทศต่างๆ ขณะที่อินเดียก็สร้างสถิติโลกใหม่อันไม่น่ายินดี ในเรื่องตัวเลขพบเคสผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันเดียวสูงสุดถึง 78,761 ราย
ข้อมูลเหล่านี้นอกจากแสดงว่าจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ศูนย์กลางของโรคติดต่อต่อนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้ อินเดีย กำลังเข้ายึดครองเวทีกลางจากสหรัฐฯและละตินอเมริกา
ทั้งนี้ยอดพบผู้ติดเชื้อใหม่ 78,761 รายของอินเดียซึ่งรายงานในวันอาทิตย์ (30) สูงกว่าสถิติเคสใหม่สูงสุดในวันเดียวที่ 77,299 รายที่รายงานโดยสหรัฐฯเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม
ตัวเลขอย่างเป็นทางการของจำนวนผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 25 ล้านคนแล้วเช่นนี้ คิดเป็นอย่างน้อย 5 เท่าตัวของจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ร้ายแรงในแต่ละปีเท่าที่มีการบันทึกกันเอาไว้ ทั้งนี้ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก
สำหรับยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วโลก เวลานี้อยู่ที่มากกว่า 840,000 คน โดยที่เห็นกันว่าตัวเลขนี้เป็นตัวบ่งชี้ซึ่งเดินตามหลังฤทธิ์เดชจริงๆ ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากไวรัสนี้มีระยะการฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ กระนั้นมันก็ยังสูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากไข้หวัดใหญ่ในแต่ละปี ซึ่งอยู่ในระดับตั้งแต่ 290,000 คนจนถึง 650,000 คน
อินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ยังคงเป็นที่ 3 ในเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ตามหลังสหรัฐฯและบราซิล ทว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 2 ประเทศนี้อย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ทั้งนี้ตามการรวบรวมของรอยเตอร์
แต่แม้จำนวนผู้ติดเชิ้อกำลังเพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ก็ยังคงผลักดันให้หวนกลับไปใช้ชีวิตกันอย่างปกติ เพื่อลดทอนความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจอันสืบเนื่องจากโรคระบาดนี้ ภายหลังที่เขาเคยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศที่มีประชากร 1,300 ล้านคนนี้อย่างเข้มงวดมาระยะหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลแดนภารตะประกาศในวันเสาร์ (29) ว่าจะเปิดเครือข่ายรถไฟใต้ดินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเส้นชีวิตเส้นหนึ่งสำหรับผู้คนจำนวนหลายล้านคนในเมืองหลวงนิวเดลี ตลอดจนจะอนุญาตให้จัดงานแข่งขันกีฬาและงานทางศาสนาแบบมีข้อจำกัด ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
ละตินอเมริกา ยังคงถือเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก อีกแม้มีบางประเทศในภูมิภาคนี้ที่กำลังมีตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง
ในสหรัฐฯ มาตรวัดทั้งในเรื่องจำนวนเคสใหม่, ผู้เสียชีวิต, ผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล, และผู้ถูกตรวจพบว่ามีผลเป็นบวก ล้วนกำลังลดน้อยลง ทว่ากำลังมีจุดฮอตสปอตใหม่ๆ ปรากฏขึ้นในแถบมิดเวสต์
ฝีก้าวของการติดเชิ้อรายใหม่ในทั่วโลก ถือว่าอยู่ในสภาพค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยที่ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์สำหรับการที่จำนวนเคสเพิ่มขึ้นมาอีก 5 ล้านราย กลายเป็น 25 ล้านราย ทั้งนี้เปรียบเทียบกับที่เคยใช้เวลา 19 วัน, 24 วัน, และ 39 วันตามลำดับ ในการมีผู้ป่วยเพิ่มมา 5 ล้านรายและทำให้จำนวนสะสมรวมกลายเป็น 20 ล้าน, 15 ล้าน, และ 10 ล้านราย
สำหรับอัตราการติดเชื้อรายใหม่ในทั่วโลกได้ชะลอตัวลงอยู่ในระดับราวๆ 1.2% ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมเท่าที่รวบรวมได้จนถึงเวลานี้ เปรียบเทียบกับ 1.7% ในเดือนกรกฎาคม, 1.8% ในเดือนมิถุนายน, 2.1% ในเดือนพฤษภาคม, 4.6% ในเดือนเมษายน, และ 7.7% ในเดือนมีนาคม
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเน้นย้ำว่า ข้อมูลที่แถลงอย่างเป็นทางการนั้นแทบจะเป็นการแน่นอนทีเดียวว่าต่ำกว่ายอดผู้ติดเชื้อจริงๆ และยอดผู้เสียชีวิตจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพวกประเทศซึ่งมีศักยภาพจำกัดในการตรวจทดสอบ
ขณะที่เส้นทางโคจรของ โควิด-19 ยังคงต่ำกว่านักจากการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สเปนเมื่อปี 1918 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อประมาณ 500 ล้านคน โดยคนไข้อย่างน้อย 10% เสียชีวิต แต่พวกผู้เชี่ยวชาญก็กังวลว่าข้อมูลที่ได้มานั้นยังคงต่ำกว่าผลกระทบจริงๆ ของโรคระบาดครั้งล่าสุดนี้