เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ - ปักกิ่งยิงขีปนาวุธจำนวน 2 ลูก โดยที่ลูกหนึ่งเป็นแบบซึ่งได้รับสมญานามว่า “ผู้พิฆาตเรือบรรทุกเครื่องบิน” พุ่งลงสู่ทะเลจีนใต้เมื่อตอนเช้าวันพุธ (26 ส.ค.) จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกองทัพพญามังกร นับเป็นการส่งคำเตือนอย่างชัดเจนถึงสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากจีนระบุว่า เครื่องบินสอดแนมแบบ U-2 ของสหรัฐฯ ลำหนึ่ง บินเข้ามาในเขตห้ามบินโดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างที่กองทัพเรือของปักกิ่งกำลังซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในทะเลปั๋วไห่ นอกชายฝั่งทางเหนือของประเทศ
ในขีปนาวุธ 2 ลูกนี้ ลูกหนึ่งเป็นแบบ DF-26B ถูกยิงออกจากมณฑลชิงไห่ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ส่วนอีกลูกคือ DF-21D ซึ่งถูกปล่อยออกจากฐานในมณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออก
จรวดทั้งสองลูกต่างลงสู่เป้าหมาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งของทะเลจีนใต้ ระหว่างระหว่างมณฑลไห่หนาน (เกาะไหหลำ) กับหมู่เกาะพาราเซล แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ จุดตกของขีปนาวุธอยู่ภายในเขตหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางทะเลไห่หนานประกาศให้เป็นพื้นที่ห้ามเข้า สืบเนื่องจากมีการซ้อมรบทางทหารตั้งแต่วันจันทร์ (24) จนถึงวันเสาร์ (29)
DF-26 ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่สามารถประกอบติดตั้งได้ทั้งหัวรบนิวเคลียร์หรือหัวรบธรรมดา ถือเป็นอาวุธต้องห้ามภายใต้สนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty treaty) ที่ลงนามโดยสหรัฐฯและสหภาพโซเวียตก่อนสิ้นสุดสงครามเย็น และตอนที่อเมริกาถอนตัวจากสนธิสัญญาฉบับนี้เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาอ้างการพัฒนาอาวุธดังกล่าวของจีน เป็นเหตุผลความชอบธรรมของการถอนตัว
ขีปนาวุธ DF-26 มีพิสัยทำการ 4,000 กิโลเมตร และสามารถใช้โจมตีทางนิวเคลียร์หรือแบบธรรมดา ต่อเป้าหมายทางภาคพื้นและทางทะเล
ส่วน DF-21 มีพิสัยทำการราว 1,800 กิโลเมตร โดยที่สื่อจีนเคยระบุไว้ว่าขีปนาวุธ DF-21 รุ่น D เป็นรุ่นล้ำสมัยสุดในซีรีส์ ถือขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) มุ่งต่อต้านเรือแบบแรกของโลก
แหล่งข่าวบอกว่า การยิงขีปนาวุธของจีนครั้งนี้มีจุงมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงยกระดับความสามารถของจีนในการปฏิเสธไม่ให้กองกำลังอื่นๆ สามารถเข้าถึงทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคซึ่งมีการพิพาทช่วงชิงกันอยู่
“นี่คือการตอบสนองของจีนต่อความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่เครื่องบินรบและเรือของกองทัพสหรัฐฯ เข้ามาในทะเลจีนใต้บ่อยขึ้น” แหล่งข่าวระบุ พร้อมกับบอกว่า “จีนไม่ต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายเข้าใจผิดเกี่ยวกับเป้าหมายของปักกิ่ง”
ซ่ง จงผิง นักวิจารณ์แสดงความคิดเห็นทางสื่อในเรื่องการทหาร ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่ฮ่องกง บอกว่าการยิงขีปนาวุธคราวนี้เห็นชัดเจนว่ามุ่งหมายให้เป็นการส่งสัญญาณไปถึงสหรัฐฯ
“สหรัฐฯ กำลังทดสอบอย่างต่อเนื่องว่าจีนยึดถืออะไรเป็นส่วนสำคัญที่สุดในประเด็นปัญหาไต้หวันและทะเลจีนใต้ และการกระทำนี้จึงผลักดันให้จีนต้องสำแดงความแข็งแกร่งทางทหารเพื่อให้วอชิงตันทราบว่า แม้กระทั่งพวกเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถอวดโอ่เบ่งกล้ามของพวกเขาในบริเวณใกล้ๆ ชายฝั่งของจีน” ซ่ง กล่าว
ในระยะเวลาใกล้ๆ นี้ กองทัพปลดแอกประชาชนจีนกำลังดำเนินการซ้อมรบในภาคพื้นทางทะเล 4 ภาคพื้นแทบจะในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เคยขึ้นมาน้อยครั้งนัก
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ กองทัพจีนก็ได้จัดการซ้อมรบบริเวณใกล้ๆ เกาะไต้หวัน “เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ” โดยเป็นการฝึกซึ่งจัดขึ้นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ อเล็กซ์ อาซาร์ ไปเยือนเกาะแห่งนั้น
ในเดือนกรกฎาคม กองทัพจีนจัดการฝึกซ้อมทางทหารทั้งในทะเลจีนใต้, ทะเลจีนตะวันออก และทะเลเหลือง ขณะที่เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ 2 ลำดำเนินการฝึกซ้อมการป้องกันทางอากาศในทางยุทธวิธีที่บริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนกำลังที่ฝ่ายสหรัฐฯ เรียกว่าเพื่อ “สนับสนุนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง”
ทั้งนี้ นอกจากการส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำเข้ามาแล้ว สหรัฐฯ ยังได้ส่งเครื่องบินไอพ่นทางทหารและเรือทางทหารอีกจำนวนหนึ่งมาคอยเฝ้าติดตามกิจกรรมของฝ่ายจีนอย่างใกล้ชิดด้วย
การฝึกซ้อมทางทหารของจีนเหล่านี้ เป็นสาเหตุสร้างความไม่สบายใจให้แก่พวกประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เวียดนามได้ขอให้จีนยกเลิกการซ้อมรบที่บริเวณหมู่เกาะพาราเซล โดยกล่าวว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของเวียดนาม และเป็นอันตรายต่อการเจรจาระหว่างจีนกับสมาคมอาเซียนเพื่อจัดทำเอกสารแนวทางในการประพฤติปฏิบัติในทะเลจีนใต้