เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อปลดล็อกเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯให้รัฐแคลิฟอร์เนียสามารถใช้ในวิกฤตไฟป่าครั้งมโหฬารหลังล่าสุดทำลายพื้นที่ไปไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเอเคอร์โดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะสามารถหยุดยั้งได้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ราย หลังฟ้าผ่า 12,000 ครั้งทำให้เกิดไฟป่าทั่วทั้งรัฐ 585 ลูกและยังคงลุกไหม้
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า ในเวลานี้มีเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงจำนวน 14,000
นายกำลังพยายามดับไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียที่กำลังลุกไหม้อยู่ร่วม 585 ลูกทั่วทั้งรัฐ และได้ไหม้พื้นที่ไปแล้วราว 1.1 ล้านเอเคอร์ อ้างอิงตัวเลขจากโฆษกสำนักงานไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย CAL FIREในการรายงานของCNN สื่อสหรัฐฯ พร้อมกับชี้ว่า
ไฟป่าที่เกิดขึ้นมาหลายร้อยลูกนั้นมาจากปรากฎการณ์ฟ้าผ่า ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า เกิดฟ้าผ่าไปแล้วถึง 12,000 ครั้ง ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ NWS ออกคำเตือนธงแดงทั่วทั้งเขตซานฟรานซิสโกเบย์แอเรียและชายฝั่งตอนกลาง(Central Coast) ตั้งแต่เวลาตี 5 ของวานนี้(23)ไปจนถึงเวลา 5 โมงเย็นของวันจันทร์(24)ให้ระวังปรากฎการณ์ฟ้าผ่าตอนที่ไม่มีฝนตกและลมกรรโชกพัดแรงจัดที่เกิดมาจากพายุฟ้าคะนอง
วิกฤตไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนียทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า 6 ราย และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า
43 คน รวมนักดับเพลิงไฟป่า หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สรายงานว่า มีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างถูกไฟป่าทำลายไปแล้ว 1,100 หลัง และอีก 80,000 หลังทั่วรัฐตกอยู่ในอันตราย
อ้างอิงจากสื่อเดดไลน์ของสหรัฐฯรายงานว่า แกวิน นิวซอม( Gavin Newsom ) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในวันเสาร์(22) ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า ทำเนียบขาวได้อนุมัติตามคำขอของนิวซอมที่เขาได้ยื่นไปยังประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันศุกร์(21)ให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อช่วยปลดล็อกงบรัฐบาลกลางสหรัฐฯเพื่อดับวิกฤตไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย
โดยล่าสุดวันนี้(24)รอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯยืนยันว่า เขาได้อนุมัติตามคำขอของนิวซอมแล้ว
ในคำแถลงนิวซอมกล่าวว่า กลุ่มไฟป่าSCU Lightning Complex ที่ทางใต้และทางตะวันออกของเมืองซานฟรานซิสโกนั้นถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของรัฐ
โดยกลุ่มไฟป่าSCU Lightning Complex ซึ่งถือเป็นไฟป่าลูกที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้เกิดขึ้นที่แถบนาปา(Napa) และโซโนมา(Sonoma)ห่างจากเมืองซานฟรานซิสโกออกไปทางเหนือเป็นแหล่งปลูกองุ่นและผลิตไวน์ โดยทางCALFIRE แถลงในวันเสาร์(22)ว่า เพิ่งควบคุมไปได้แค่ 15% เท่านั้นและได้ทำลายพื้นที่ไปแล้วกว่า 291,900 เอเคอร์ อ้างอิงจากเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ
นิวซอมได้ขอความช่วยเหลือจากทั้งต่างรัฐเช่น รัฐโอเรกอน รัฐนิวเม็กซิโก และรัฐโอเรกอน รวมไปถึงจากประเทศอื่น คือ ออสเตรเลียและแคนาดาสำหรับนักผจญเพลิง เครื่องยนต์ และเครื่องบินตรวจการ เป็นต้น ให้เข้ามาช่วยดับไฟป่าภายในรัฐ
ซึ่งในวันเสาร์(22) มีการสั่งอพยพแถบเมืองซานโฮเซของภูมิภาคเบย์แอเรีย พร้อมกับเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมให้รีบเดินทางออกนอกบ้านหากมีคำสั่งทันที
เจ้าหน้าที่ไฟป่าต้องทำงานอย่างหนักโดยที่ไม่ได้หยุดพัก โดยทำงานต่อเนื่อง 72 ชั่วโมงท่ามกลางสภาพการทำงานที่เป็นอันตรายและมีอุณหภูมิสูง
อุทยานประจำมลรัฐบิ๊ก เบซิน เรดวู้ด (Big Basin Redwood State Park) ซึ่งมีต้นไม้ที่มีอายุยืนที่สุดของโลกที่อยู่มานานไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี พบว่าศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เก่าแก่ถูกไฟป่าเผาทำลาย และเจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีต้นไม้ยืนต้นที่สูงร่วม 100