สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ว่า สำนักงานดับเพลิงรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ แคลไฟร์ (CalFire) ออกแถลงการณ์เรื่องกลุ่มไฟป่า LNU Lightning Complex ซึ่งปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า เผาทำลายพื้นที่ไปแล้วอย่างน้อย 314,207 เอเคอร์ ถือเป็นไฟป่าขนาดใหญ่อันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย จนถึงตอนนี้สามารถควบคุมได้เพียง 15%
ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มไฟป่า SCU Lightning Complex ซึ่งเผาทำลายพื้นที่ไปแล้วอย่างน้อย 291,968 เอเคอร์ ถือเป็นไฟป่าขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่สามารถควบคุมได้แล้ว 10%
ทั้งนี้ ไฟป่า LNU ตั้งชื่อตามหน่วย "ซาโนมา-เลค นาปา" ของแคลไฟร์ ส่วนไฟป่า SCU ตั้งชื่อตามเมืองในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียไม่ได้มีเพียงกลุ่มไฟป่า LNU และ SCU เนื่องจากการเกิดฟ้าผ่าระลอกใหม่มากกว่า 100 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟป่ากระจายไปอีกทั่วทั้งรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงมากกว่า 13,700 คน จากรัฐแคลิฟอร์เนียและอีกมากกว่า 10 รัฐในประเทศ ลงพื้นที่ร่วมกันดับไฟป่าทั้งหมดเกือบ 600 แห่ง สร้างความเสียหายรวมกันประมาณ 1 ล้านเอเคอร์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 43 คน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน
ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มไฟป่า SCU Lightning Complex ซึ่งเผาทำลายพื้นที่ไปแล้วอย่างน้อย 291,968 เอเคอร์ ถือเป็นไฟป่าขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่สามารถควบคุมได้แล้ว 10%
ทั้งนี้ ไฟป่า LNU ตั้งชื่อตามหน่วย "ซาโนมา-เลค นาปา" ของแคลไฟร์ ส่วนไฟป่า SCU ตั้งชื่อตามเมืองในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียไม่ได้มีเพียงกลุ่มไฟป่า LNU และ SCU เนื่องจากการเกิดฟ้าผ่าระลอกใหม่มากกว่า 100 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟป่ากระจายไปอีกทั่วทั้งรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงมากกว่า 13,700 คน จากรัฐแคลิฟอร์เนียและอีกมากกว่า 10 รัฐในประเทศ ลงพื้นที่ร่วมกันดับไฟป่าทั้งหมดเกือบ 600 แห่ง สร้างความเสียหายรวมกันประมาณ 1 ล้านเอเคอร์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 43 คน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน