เอเจนซีส์ – คลื่นความร้อนสูงเกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเวลานี้ในเดท แวลลีย์ (Death Valley)แตะไป 54 องศาเซลเซียสสุดสัปดาห์ พร้อมกับพายุฟ้าผ่าหน้าร้อนที่น้อยครั้งจะเกิด และทำให้เกิดปรากฎการณ์ฟ้าแลบและฟ้าผ่าในเขตเบย์แอร์เรียซานฟรานซิสโก ไฟป่าเกือบ 30 ลูกผลาญพื้นที่ไปไม่ต่ำกว่า120,000 เอเคอร์ในเช้าวันอังคาร(18 ส.ค)
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(18 ส.ค)ว่า ประชาชนรัฐแคลิฟอร์เนียเกือบ 42 ล้านคนต้องอยู่ภายใต้การถูกประกาศเตือนเรื่องอุณหภูมิสูงจัดในรัฐแคลิฟอร์เนียในสัปดาห์นี้ ซึ่งการประกาศเตือนบางอย่างถูกสั่งใช้ยาวไปถึงวันพฤหัสบดี(20)และวันศุกร์(21)
และบางส่วนของรัฐได้เห็นอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส ขณะที่เดท แวลลีย์ (Death Valley)เมื่อสุดสัปดาห์มีอุณหภูมิขึ้นสูงสุดที่54 องศาเซลเซียส
นักอุตุนิยมวิทยาประจำสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ (National Weather Service)ประจำเบย์แอร์เรียซานฟรานซิสโก
ไบรอัน การ์เซีย(Brian Garcia) ได้กล่าวแสดงความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเรื่องสภาพอากาศร้อนจัดของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ที่มีฝนตกฟ้าคะนองทำให้ได้เห็นปรากฎการณ์ฟ้าผ่าจำนวนมากเกิดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก รวมไปถึงไฟป่าทั่วทั้งรัฐ
เขากล่าวว่า คลื่นความร้อนระดับนี้มักจะอยู่ได้ไม่ถึงเต็มทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาในรัฐแคลิฟอร์เนีย
การ์เซียกล่าวและชี้ไปที่การเกิดพายุฟ้าคะนองที่มีการพยากรณ์ว่าจะเกิดปรากฎการณ์ขึ้นฟ้าผ่าในเขตเบย์แอร์เรีย(Bay Area) และจะทำให้มีไฟป่าเกิดขึ้นซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแพร่กระจายได้มากกว่าปกติ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นKPIX CBS SF Bay Areaรายงานว่า ฟ้าผ่าทำให้อพาทเมนต์เกิดเพลิงไหม้ที่เรด วู๊ด ซิตี (Red Wood City)
การ์เซียให้ความเห็นอีกว่า คลื่นความร้อนเกิดขึ้นเวลานี้มาจากการที่รัฐแคลิฟอร์เนียมีลักษณะเป็นเหมือนหม้อแรงดันในพื้นที่ซึ่งมีสภาพกดอากาศสูงครอบคลุมบางส่วนของเขตตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐยูทาและถูกกดให้ต่ำในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
หรืออาจกล่าวได้ว่า อากาศกำลังถูกกดให้ต่ำ และทำให้ร้อนขึ้น ซึ่งจะอยู่นิ่งไปทั่วทั้งรัฐ
การ์เซียชี้ว่า เชื่อว่าเดือนสิงหาคมจะกลายเป็นเดือนที่มีอากาศอบอุ่นที่สุดสำหรับรัฐแคลิฟอร์เนีย
และเสริมว่าปี 2020 จะกลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเคยเห็นมา
อ้างอิงจากสำนักงานไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนียCal Fireพบว่าในเวลานี้มีไฟป่าจำนวน 27 ลูกที่ยังคงลุกไหม้อยู่ทั่วทั้งรัฐโดยไฟป่าลูกที่ใหญ่ที่สุดคือไฟป่า โลยอลตัน(Loyalton Fire) ที่อุทยานแห่งชาติป่าทาโฮ(Tahoe National Forest) อยู่ทางตอนเหนือสุดของรัฐ เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า39,723 เอเคอร์ แต่ควบคุมได้แค่ 10%
ไฟป่าลูกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 คือไฟป่าแอปเปิล(Apple Fire) เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว33,424 เอเคอร์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าดับไฟมานานหลายสัปดาห์ สามารถควบคุมได้แล้ว 95%
ส่วนไฟป่าแม่น้ำ (River Fire) ที่มอนเทอเรย์ เคาน์ตี (Monterey County) ทำให้สิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ร่วม 1,500หลังตกอยู่ในอันตราย อ้างอิงจากCAL Fireและพบว่ามีสิ่งปลูกสร้าง 6 แห่งถูกไฟป่าทำลาย ส่วนอีก
2 แห่งได้รับความเสียหายในพื้นที่3,800 เอเคอร์
และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเข้าดับไฟ