เอเอฟพี – รัฐบาลศรีลังกาแถลงวันนี้(19 ส.ค)ว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปจะมีการสั่งใช้มาตรการปันกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในประเทศ หลังจากโรงงานไฟฟ้าถ่านหินของจีนเกิดประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิก ทำให้เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั่วประเทศ
เอเอฟพีรายงานวันนี้(19 ส.ค)ว่า จะมีการตัดกระแสไฟฟ้าเกือบ
3 ชั่วโมงของทุกวันทั่วเกาะศรีลังกาที่มีประชาชนอาศัยจำนวน 21
ล้านคนเพื่อการประหยัดไฟ บอร์ดการไฟฟ้าซีลอน(Ceylon Electricity Board) ซึ่งเป็นของรัฐกล่าว
ทั้งนี้มีการขัดข้องทางเทคนิกเกิดขึ้นโรงงานพลังงานความร้อน
300 เมกะวัตต์ใกล้กับกรุงโคลัมโบในวันจันทร์(17)
ส่งผลทำให้ทั่วทั้งศรีลังกาอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งประเทศนาน 10 ชั่วโมง
นอกจากนี้การขัดข้องทางเทคนิกที่ไม่ได้การเปิดเผยในรายละเอียดยังส่งผลต่อสถานีพลังงาน
ลัควิจายา(Lakvijaya) ที่จีนเป็นผู้สร้างทำให้เกิดการติดขัด
ซึ่งสถานีพลังงานลัควิจายาจ่ายกระแสไฟฟ้าเกือบ 1
ใน 3 ของพลังไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศ
“โรงงานพลังถ่านหินต้องใช้เวลาไม่กี่วันเพื่อที่จะรีสตาร์ทหลังจากถูกปิด”
โฆษกบอร์ดการไฟฟ้าซีลอนกล่าว
และเสริมว่า “เรามีการสั่งดับไฟเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานจนกว่าเราจะสามารถกลับมาเชื่อมต่อโรงงานพลังงานถ่านหินได้”
แต่อย่างไรก็ตามทางโฆษกไม่ได้แถลงว่าเมื่อใดที่โรงงานไฟฟ้าจะกลับมาเริ่มทำงานได้อีกครั้ง
ผู้กำกับหน่วยงานสาธารณูปโภคศรีลังกากล่าวว่า
ให้เวลาบอร์ดการไฟฟ้าแค่ 3 วันสำหรับการแก้ไขและคำอธิบายถึงปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่
ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า เป็นปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศนับตั้งแต่เหตุเกิดเมื่อมีนาคมปี
2016
หลังเกิดไฟฟ้าดับยิ่งเพิ่มความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในการจราจรศรีลังกาที่มีปัญหาติดขัด
โดยพบว่าสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงานและตำรวจศรีลังกาประสบความยุ่งยากในการต้องส่งกำลังไปกำกับตามแยกต่างๆ
ทั้งนี้พบว่าศรีลังกาผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำเกือบ
50%
ต่ำกว่าครึ่งจากพลังงานความร้อน 32% จากพลังงานถ่านหิน และอีก 2%จากพลังงานลม