xs
xsm
sm
md
lg

SUPER จ่อ COD โซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 550 MW

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SUPER
"ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น" เปิดรายได้งวด 6 เดือนรวม 3,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ชี้รายได้ไม่กระทบจากการขายโครงการเข้ากอง SUPEREIF ขณะที่รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศเวียดนาม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ “จอมทรัพย์ โลจายะ" บิ๊กบอส ระบุ เตรียม CODโครงการโรงไฟฟ้าเวียดนามเพิ่มอีก 550 เมกะวัตต์ ปลายปี 2563

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 มีรายได้รวม 3,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.45% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,197.991 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563) รายได้รวมอยู่ที่ 1,592.726 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 50 เมกะวัตต์ ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เมื่อเดือนธันวาคม 2562 เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องการโอนหุ้น

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะเพิ่มขึ้น และรายได้จากการขายน้ำประปาและน้ำดิบเพิ่มขึ้น จากการที่ SUPER ได้เข้าซื้อธุรกิจของกลุ่มธุรกิจน้ำในปี 2562 สนับสนุนเพิ่ม

"ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 รายได้บริษัทฯ ยังสามารถเติบโต โดยเฉพาะในเวียดนามเริ่มทยอยรับรู้เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ จังหวัดพิจิตร กำลังการผลิตเสนอขาย 9.9 เมกะวัตต์ CODไปในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และจะสามารถรับรู้รายได้อย่างเต็มที่ในไตรมาส 3 ผมอยากให้เชื่อมั่นในการทำธุรกิจ เราจะสามารถฝ่ากระแสเศรษฐกิจชะลอตัวในรอบนี้ไปได้ เพราะบริษัทฯ มีรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่องตามอายุสัมปทาน ซึ่งส่วนใหญ่สัญญาสัมปทานในมือเรายังมีระยะเวลาตามสัญญาอีกเฉลี่ยอยู่ที่ 20-21 ปี" นายจอมทรัพย์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือปี ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการต่างๆ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอย COD ภายในเดือนธันวาคม 2563 จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 15-20% มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้ารวมทะลุ 1,200 เมกะวัตต์ได้อย่างแน่นอนภายในสิ้นปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น