รอยเตอร์ – รัฐบาลเลบานอนประกาศลาออกทั้งคณะเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) ตามหลังเหตุระเบิดใหญ่ในกรุงเบรุตที่สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเมืองหลวง และคร่าชีวิตประชาชนไปเกือบ 200 คน
แม้ว่ารัฐบาลจะยอมลาออกเพื่อบรรเทาความโกรธแค้นในสังคมต่อเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ทว่าชาวเลบานอนส่วนใหญ่ยังคงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันการเมือง และขจัดพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันอย่างถึงรากถึงโคน
การระเบิดครั้งใหญ่ที่โกดังท่าเรือเบรุตซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเกิดจากสารแอมโมเนียมไนเตรตกว่า 2,000 ตันได้คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 163 คน บาดเจ็บอีกกว่า 6,000 คน และทำให้พื้นที่บางส่วนของกรุงเบรุตพังราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งถือเป็นวิกฤตการณ์ที่เข้ามาซ้ำเติมปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
“วันนี้เราได้ทำตามความต้องการของประชาชนซึ่งเรียกร้องหาตัวผู้รับผิดชอบต่อหายนะที่ถูกซุกซ่อนมานานถึง 7 ปี และความปรารถนาของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง” นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอาบ ระบุในคำแถลงลาออก
ภาวะสุญญากาศที่เกิดขึ้นคาดว่าจะยิ่งทำให้การเมืองเลบานอนปั่นป่วน และอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาเพื่อขอรับแพ็จเกจเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่หยุดชะงักไป
ดิอาบ ยอมรับว่า การทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ท่าเรือเบรุตเท่านั้น “แต่ได้ระบาดไปทั่วทุกภาคส่วนการเมืองและการบริหารของประเทศ” โดยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของ “ชนชั้นที่กุมชะตาของบ้านเมือง”
ประธานาธิบดี มิเชล อูน แห่งเลบานอนได้ขอให้รัฐบาลของ ดิอาบ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือน ม.ค. โดยได้รับการสนับสนุนจากขบวนการฮิซบอลเลาะห์และพันธมิตร ปฏิบัติหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
การลาออกของคณะรัฐมนตรีเลบานอนมีขึ้นหลังประชาชนชาวเบรุตออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยผู้ประท้วงบางคนได้ขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ด้านนอกอาคารรัฐสภา จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี อูน จะต้องปรึกษาหารือกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ในสภาว่าใครที่สมควรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยจะเสนอชื่อบุคคลซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากสภามากที่สุด
อูน แถลงช่วงแรกๆ ว่า สารเคมีซึ่งเป็นวัตถุดิบทำปุ๋ยและระเบิดถูกนำมาเก็บไว้ที่ท่าเรือนานหลายปีโดยไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ แต่ก็ยอมรับในเวลาต่อมาว่า กระบวนการสอบสวนจะมุ่งพิสูจน์ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดจากการโจมตีของต่างชาติ หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุที่เกิดจากความละเลย
กองทัพเลบานอนแถลงเมื่อวันจันทร์ (10) ว่าสามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 5 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 163 ราย โดยปฏิบัติการค้นหายังคงดำเนินต่อไป
ในการประชุมผู้บริจาคนานาชาติเมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมาสามารถระดมคำสัญญาบริจาคเงินได้เกือบ 253 ล้านยูโร (ประมาณ 9,240 ล้านบาท) เพื่อนำไปเป็นทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนต่อชาวเลบานอน ทว่าหลายประเทศเรียกร้องให้มีการชี้แจงอย่างโปร่งใสด้วยว่าเงินช่วยเหลือเหล่านี้ถูกนำไปทำอะไรบ้าง