รอยเตอร์ – ไต้หวันต้องส่งเครื่องบินขับไล่และขีปนาวุธเข้าประกบเครื่องบินของกองทัพอากาศจีนที่รุกล้ำข้ามเส้นผ่านแดนบริเวณช่องแคบไต้หวันในช่วงสั้นๆ ในวันจันทร์ (10 ส.ค.) ระหว่างที่อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ เยือนไทเปอย่างเป็นทางการเพื่อถ่ายทอดคำชมและการสนับสนุนจากทรัมป์
อาซาร์เดินทางถึงไต้หวันตั้งแต่วันอาทิตย์ (9 ส.ค.) และถือเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระดับสูงสุดที่เดินทางเยือนดินแดนมังกรน้อยในรอบ 4 ทศวรรษ
จีนที่อ้างว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน ประณามการเยือนดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นขณะที่ปักกิ่ง-วอชิงตันกำลังขัดแย้งกันอย่างหนักในหลายด้าน
กองทัพอากาศไต้หวันแถลงว่า จีนซึ่งประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะโต้ตอบการเยือนของอาซาร์ ส่งเครื่องบินขับไล่ เจ-11 และเจ-12 บินข้ามเส้นแบ่งเหนือช่องแคบไต้หวันเข้าสู่น่านฟ้าไต้หวันช่วงสั้นๆ เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันจันทร์ (8.00 น. ตามเวลาไทย) ก่อนที่อาซาร์จะเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินไม่นาน
แถลงการณ์ของกองทัพอากาศไต้หวันเสริมว่า ได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวนและขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานตามประกบและผลักดันให้เครื่องบินขับไล่ของจีนกลับออกไปในที่สุด
เจ้าหน้าที่อาวุโสของไต้หวันคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับการวางแผนด้านความมั่นคงของรัฐบาลเผยว่า จีนพุ่งเป้าที่การเยือนของอาซาร์อย่างชัดเจนด้วยการเคลื่อนไหวที่เสี่ยงมากเนื่องจากเครื่องบินขับไล่จีนอยู่ในรัศมีการโจมตีของขีปนาวุธไต้หวัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งที่ 3 นับจากปี 2016 ที่เครื่องบินจีนข้ามเส้นแบ่งแดนในบริเวณช่องแคบไต้หวัน
ทั้งนี้ คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างชัดเจน รวมทั้งขายอาวุธเพิ่มให้ไทเปเมื่อเร็วนี้ ขณะที่ความสัมพันธ์กับปักกิ่งเสื่อมลงอย่างมาก
อาซาร์กล่าวกับไช่ว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำสารแสดงการสนับสนุนและมิตรภาพจากทรัมป์ไปมอบให้แก่ไต้หวัน ซึ่งวอชิงตันสะบั้นสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในปี 1979 เพื่อเอาใจปักกิ่ง
การเยือนของอาซาร์ยังมีจุดประสงค์เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขกับไทเป รวมทั้งสนับสนุนบทบาทระหว่างประเทศของไต้หวันในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา
รัฐมนตรีสาธารณสุขอเมริกายกย่องว่า มาตรการรับมือโควิด-19 ของไต้หวันเป็นหนึ่งในมาตรการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเพราะสังคมและวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง โปร่งใส และเป็นประชาธิปไตยของไต้หวัน
การรับมือโรคระบาดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทำให้ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อเพียง 480 คน และเสียชีวิตแค่ 7 คน นอกจากนั้นผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอื่น
ตรงข้ามกับอเมริกาที่เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก วอชิงตันยังเปิดสงครามปากกับจีนเรื่องโรคระบาดอยู่เนืองๆ โดยกล่าวหาว่า ปักกิ่งไม่โปร่งใส
ทางด้านไช่กล่าวว่า การเยือนของอาซาร์สะท้อนความคืบหน้าสำคัญในการร่วมมือเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดระหว่างไต้หวันกับอเมริกา เช่น ในด้านการวิจัยและผลิตวัคซีนและยารักษาโควิด-19
ไต้หวันยังซาบซึ้งอย่างมากที่อเมริกาให้การสนับสนุนในการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชเอ) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และเปิดทางให้ไต้หวันเข้าถึงองค์กรแห่งนี้มากขึ้น ทั้งนี้ ไต้หวันไม่ได้เป็นสมาชิก WHO เนื่องจากการคัดค้านของจีน
ไช่ย้ำว่า ประเด็นทางการเมืองไม่ควรมีความสำคัญมากไปกว่าสิทธิด้านสุขอนามัย และการตัดสินใจขัดขวางไต้หวันไม่ให้เข้าร่วมดับเบิลยูเอชเอถือว่า ละเมิดสิทธิสากลด้านสุขอนามัย
อาซาร์ยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนและไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับคำสั่งจากทรัมป์ให้พยายามฟื้นสถานะผู้สังเกตการณ์ของไต้หวันในดับเบิลยูเอชเอ แต่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและฮูขัดขวาง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่คณะบริหารของทรัมป์ไม่พอใจฮูและการที่องค์กรแห่งนี้ไร้ความสามารถในการปฏิรูป