เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(3 ก.ค)ผู้นำสหรัฐฯลงนามคำสั่งทางบริหารให้สำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯห้ามปลดพนักงานที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯหรือคนถือกรีนการ์ดออกและจ้างแรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงถูกกว่า เกิดขึ้นไม่นานหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งห้ามการออกวีซ่าทำงานให้กับต่างชาติเป็นเวลา 1 ปี
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(3 ส.ค)ว่า คำสั่งทางบริหารที่ลงนามโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ในวันจันทร์(3) โดยทรัมป์กล่าวระหว่างการลงนามว่า
“วันนี้ผมได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อทำให้มั่นใจว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯจะอยู่ด้วยเพียงกฎง่ายๆคือ
การจ้างงานคนอเมริกัน"
อ้างอิงจากVOAวอยซ์ออฟอเมริกา ทำเนียบขาวแถลงในเรื่องนี้ว่า คำสั่งที่ลงนามไปจะช่วยป้องกันสำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯจากการแทนที่อย่างไม่เป็นธรรมของพนักงงานพลเมืองสหรัฐฯด้วยแรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงที่ถูกกว่า
ในคำสั่งระบุให้สำนักงานทุกแห่งของรัฐบาลกลางสหรัฐฯต้องทำการตรวจสอบภายในเพื่อตรวจดูว่าได้ว่าจ้างพลเมืองสหรัฐฯหรือบุคคลถือกรีนการ์ดในตำแหน่งบริการทางการแข่งขันหรือไม่
ทรัมป์เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของเขานั้นมีส่วนหนึ่งมาจากการประกาศขององค์การเทนเนสซี แวลลีย์ (TVA) (Tennessee Valley Authority)ที่ต้องการจ้างแรงงานภายนอก 20% ของงานด้านไอทีในบริษัทที่มีฐานอยู่ในต่างประเทศโดยใช้วีซ่าทำงานที่มีทักษะ H-1B
และเมื่อวานนี้(3)ผู้นำสหรัฐฯแถลงว่าเขาได้สั่งปลดประธานกรรมการองค์การเทนเนสซี แวลลีย์ สกิป ทอมสัน(Skip Thompson) จากเหตุผลที่เขาจ้างงานแรงงานต่างชาติและได้รับเงินเดือนสูงเกินไป
ทรัมป์ยังออกมาข่มขู่ที่จะสั่งปลดสมาชิกบอร์ดคนอื่นๆที่ได้รับการแต่งตั้งของสำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯหากว่าคนเหล่านี้ยังคงต้องการที่จะว่าจ้างแรงงานต่างชาติต่อไป “หากพวกคุณทรยศต่อแรงงานอเมริกัน คุณจะได้ยินคำนี้ “คุณถูกไล่ออก” ”
องค์การเทนเนสซี แวลลีย์เป็นของรัฐบาลกลางสหรัฐฯตั้งขึ้นเมื่อ 1933 เพื่อให้บริการด้านการควบคุมน้ำท่วม การสั่งจ่ายกระแสไฟฟ้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคเทนเนสซี แวลลีย์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้ผลกระทบหนักสุดจากยุคเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรง
ความเคลื่อนไหวในนโยบายการว่าจ้างแต่พลเมืองสหรัฐฯของทรัมป์กระทบต่อสื่อ VOA วอยซ์ออฟอเมริกา ซึ่งในเวลานี้นักข่าวต่างชาติของวอยซ์ออฟอเมริกาประสบปัญหาต่อความล่าช้าในการขอต่ออายุวีซ่า J-1 และเสี่ยงที่จะถูกสั่งขับออกนอกสหรัฐฯ
VOAวอยซ์ออฟอเมริกามีพนักงานต่างชาติซึ่งเป็นพนักงานประจำ 14 คนและเป็นแบบสัญญาว่าจ้างอีก 62 คน และพบว่าสำนักข่าวอื่นๆที่มีนักข่าวต่างชาติทำงานต่างประสบปัญหาด้านวีซ่าเช่นเดียวกันเป็นต้นว่า วิทยุเสรียุโรป(Radio Free Europe) วิทยุเสรีภาพ (Radio Liberty) วิทยุเสรีเอเชีย (Radio Free Asia) สำนักงานกระจายเสียงคิวบา และเครือข่ายสำนักงานกระจายเสียงตะวันออกกลาง
