รอยเตอร์ - เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันศุกร์ (31 ก.ค.) ระบุว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะก่อหายนะชนิดที่ส่งผลกระทบยาวนานเป็นเวลาหลายทศวรรษในอนาคต คำเตือนซึ่งมีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่
"โรคระบาดใหญ่คือวิกฤตสาธารณสุขที่ศตวรรษหนึ่งจะเกิดขึ้นสักครั้ง ซึ่งผลกระทบของมันจะรู้สึกได้ไปอีกนานหลายทศวรรษนับจากนี้" เทดรอส บอกกับที่ประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนแล้ว 675,000 รายนับตั้งแต่อุบัติขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม และมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 17 ล้านคน
สหรัฐฯ บราซิล เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร เป็นชาติที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยรัฐบาลของแต่ละประเทศประสบปัญหาในการหาแนวทางตอบสนองที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับการแพร่ระบาด
เศรษฐกิจของนานาประเทศต่างได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ขณะเดียวกัน หลายภูมิภาคก็กำลังหวาดผวาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกสอง อันเนื่องจากด่วนกลับมาเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป
คำเตือนของ เกรเบเยซุส มีขึ้นในขณะที่องค์การของเขารายงานว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกในวันศุกร์ (31 ก.ค.) ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 292,527 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 6,812 คน
ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มขึ้นมากที่สุดได้แก่ สหรัฐฯ บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้
สถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดขององค์การอนามัยโลกก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 284,196 คน และในวันเดียวกันนั้นยังพบผู้เสียชีวิต 9,753 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มีค่าเฉลี่ยที่ 5,200 คนต่อวันในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4,600 คนต่อวัน
จากข้อมูลพบด้วยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีเกือบ 20 ชาติที่ทุบสถิติพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในประเทศของตนเอง คิดเป็นจำนวนราวๆ 1 เท่าจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
นอกจากนี้แล้ว ยังพบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง โบลิเวีย ซูดาน เอธิโอเปีย บัลแกเรีย เบลเยียม อุซเบกิสถาน อิสราเอล และอื่นๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อในละตินอเมริกา แซงหน้าจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ และแคนาดารวมกัน จากการนับของรอยเตอร์ สืบเนื่องจากการพุ่งขึ้นของผู้ติดเชื้อในบราซิล ซึ่งรั้งอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต
เวลานี้มีบริษัทยามากกว่า 150 แห่งที่กำลังเร่งพัฒนาวัคซีน แม้คาดหมายว่ากว่าจะมีวัคซีนแรกสำหรับรักษาโควิด-19 อาจต้องรอจนถึงช่วงต้นปี 2021
เทดรอส ยอมรับว่า แม้การเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสใหม่นี้มีความคืบหน้า แต่หลายคำถามยังคงไม่มีคำตอบ และประชากรโลกยังคงอ่อนแอต่อไวรัส "ผลเบื้องต้นจากการศึกษาแอนติบอดี กำลังให้ภาพที่สอดคล้องกัน คนส่วนใหญ่ของโลกยังคงอ่อนแอต่อไวรัสนี้ แม้แต่ในพื้นที่ต่างๆ ที่เคยประสบกับการแพร่ระบาดรุนแรง"
"มากมายหลายประเทศที่เคยเชื่อว่าพวกเขาผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้ว ตอนนี้กลับต้องเผชิญต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ บางประเทศที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์แรกๆ ตอนนี้กำลังพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น" เขากล่าว
