เอเจนซีส์ – ยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียพุ่งทำสถิติอีกครั้ง หลังรัฐวิกตอเรียพบเคสใหม่กว่า 700 คนและเสียชีวิต 13 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละกว่า 250,000 คนในรอบ 7 วันล่าสุด
ในวันพฤหัสบดี (30 ก.ค.) แดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 723 คน และถือเป็นวันที่ 25 ติดต่อกันที่พบเคสใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราเลข 3 หลัก สำหรับผู้เสียชีวิตมี 13 คน ซึ่ง 10 คนในจำนวนนี้เชื่อมโยงกับการระบาดในบ้านพักคนชรา ทั้งนี้ สถิติผู้เสียชีวิตสูงสุดของออสเตรเลียคือ 10 คน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.)
เพื่อควบคุมการระบาดครั้งใหม่ แอนดรูส์ประกาศว่า นับจากเที่ยงคืนวันพฤหัสฯ ประชาชนในหลายเขตทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเมลเบิร์นจะไม่ได้รับอนุญาตให้พาแขกเข้าบ้านอีกต่อไป และนับจากวันอาทิตย์ที่จะถึง (2 ส.ค.) ประชาชนทั่วทั้งรัฐจะต้องสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน
ที่รัฐควีนส์แลนด์ วัยรุ่น 2 คนในบริสเบนที่ติดเชื้อและแจ้งข้อมูลเท็จในแบบฟอร์มการเดินทางเข้ารัฐเพื่อเลี่ยงการจ่ายค่ากักตัวในโรงแรมหลังกลับจากรัฐวิกตอเรียจะถูกนำตัวขึ้นศาล ขณะที่รัฐนี้กำลังพยายามรับมือแนวโน้มการระบาดในชุมชน
พฤติกรรมของวัยรุ่นหญิงสองคนนี้ทำให้รัฐควีนส์แลนด์ต้องทำการติดตามผู้สัมผัสโรคครั้งใหญ่ โดยขณะนี้มีการปิดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงเรียน โบสถ์ และศูนย์ดูแลคนชรา นอกจากนั้นพี่สาวของวัยรุ่น 1 ใน 2 คนนี้ยังตรวจพบว่าติดเชื้อ
ที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อใหม่ 18 คน และเรือนจำแห่งหนึ่งในซิดนีย์ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่หลังพบนักโทษคนหนึ่งที่เคยเดินทางไปรัฐควีนส์แลนด์ก่อนถูกจับกุมติดเชื้อ
ที่ญี่ปุ่น กระทรวงต่างประเทศประกาศว่า จะยกเลิกการห้ามชาวต่างชาติที่เป็นผู้อยู่ถาวรบางส่วนกลับเข้าประเทศ โดยขณะนี้มีชาวต่างชาติที่เป็นผู้อยู่ถาวรราว 90,000 คน ซึ่งมีทั้งนักศึกษา นักธุรกิจ และผู้ฝึกงาน ติดค้างอยู่นอกญี่ปุ่นหลังจากรัฐบาลแบนนักเดินทางจากกว่า 100 ประเทศเพื่อรับมือโรคระบาด
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์เมื่อวันพุธ (29 ก.ค.) ระบุว่า อเมริกามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 150,000 คนแล้ว แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และเทกซัส 3 รัฐใหญ่ที่สุดของอเมริกา ต่างรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียวเมื่อวันพุธ
ทั้งนี้ อเมริกามีผู้เสียชีวิต 10,000 คนในช่วง 11 วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสถิติการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดนับจากต้นเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ดี อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยในรอบ 7 วันลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 65,857 คน ส่วนที่บราซิลทำสถิติทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น 69,074 คน และเสียชีวิต 1,595 คนในวันพุธ
ซาอุดีอาระเบียเริ่มพิธีฮัจญ์ โดยเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่มีการจำกัดจำนวนผู้แสวงบุญเพียง 10,000 คน หรือ 0.4% ของจำนวนผู้เข้าร่วม 2.5 ล้านคนจากทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว และยังอนุญาตให้เข้าร่วมได้ภายใต้มาตรการสุขอนามัยที่เคร่งครัด
ในวันพฤหัสบดี อินเดียรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเกิน 50,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงเป็นครั้งแรก รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,583,792 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วมีมากกว่า 1 ล้านคน ขณะที่อัตราการฟื้นตัวที่ 64.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 775 คน เป็น 34,968 คน
ด้านจีนรายงานในวันพฤหัสบดี ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 105 คน โดย 96 คนอยู่ในมณฑลซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือ, 5 คนอยู่ในมณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือ และ 1 คนในปักกิ่ง ที่เหลืออีก 3 คนเดินทางมาจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ทางการต้าเหลียนในมณฑลเหลียวหนิงออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ชาวเมืองทั้ง 5.6 ล้านคนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องหลายวัน โดยจนถึงเที่ยงคืนวันพุธสามารถเก็บตัวอย่างจากประชาชนได้กว่า 4 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมีการตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง และจง หนานซาน นักระบาดวิทยาชั้นนำของจีน เรียกร้องให้มีการตรวจหาเชื้อชาวฮ่องกงทั้ง 7.5 ล้านคนที่กำลังเผชิญการระบาดรอบใหม่ โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 คน
