เอเจนซีส์ – ซาอุดีอาระเบียประกาศในวันอังคาร (23 มิ.ย.) จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์แค่ประมาณ 1,000 คน สืบเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ในทั่วโลกพุ่งทะลุ 9 ล้านคนแล้ว ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า สถานการณ์การระบาดในประเทศใหญ่ๆ หลายแห่งกำลังถึงหรือใกล้ถึงจุดสูงสุด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ล้านคนล่าสุดใช้เวลาเพียง 8 วันเท่านั้น เทียบกับ 1 ล้านคนแรกที่ใช้เวลากว่า 3 เดือน
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ของอเมริกาเมื่อวันอังคาร (23) ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 9 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 472,000 คน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านั้นมาก
ในเอเชียใต้ อินเดียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันละประมาณ 15,000 คน และในวันอังคาร (23) บางรัฐกำลังพิจารณาบังคับใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดกันใหม่อีกครั้งเพื่อสกัดการระบาด หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลกลางประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจที่เสียหายอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ที่ปากีสถาน โรงพยาบาลอยู่ในภาวะไม่สามารถรับคนไข้ใหม่เพิ่ม กระนั้น รัฐบาลยังมุ่งมั่นในการรีสตาร์ทเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในละตินอเมริกาอย่างเม็กซิโก โคลอมเบีย ตลอดจนชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอินโดนีเซีย
บราซิลอาการหนักกว่าอีกหลายประเทศในละตินอเมริกา โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1.1 ล้านคน และเสียชีวิต 51,000 คน แต่ยังห่างไกลจากสหรัฐอเมริกาที่รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 2.3 ล้านคน และเสียชีวิต 120,000 คน
ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งทะยานในพื้นที่ทางภาคใต้และภาคตะวันตก ขณะที่รัฐต่างๆ ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ โดยชาวอเมริกันจำนวนมากไม่ยอมสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อเมริกาอาจมีผู้เสียชีวิตเกิน 150,000 คน ขณะที่มีข่าวว่า สมาชิกทีมหาเสียง 2 คนของทรัมป์ที่ไปช่วยจัดการหาเสียงในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา เมื่อวันเสาร์ (20) ติดเชื้อโควิด-19 จากเดิมที่พบสมาชิกทีมนี้ติดเชื้อไปแล้ว 6 คน
นายแพทย์ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า จำนวนเคสใหม่ที่เพิ่มขึ้นรายวัน ซึ่งอยู่ในระดับทำลายสถิติมาหลายครั้งแล้วนั้น ไม่ได้เป็นเพราะการขยายขอบเขตการตรวจหาผู้ติดเชื้อเท่านั้น พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้น
ไรอันเสริมว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดในประเทศใหญ่ๆ หลายแห่งกำลังถึงหรือใกล้ถึงจุดสูงสุด
ด้านเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการฮูชี้ว่า โลกใช้เวลากว่า 3 เดือนในการยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อ 1 ล้านคนแรก แต่สำหรับผู้ติดเชื้อ 1 ล้านคนที่เพิ่มขึ้นล่าสุดใช้เวลาแค่ 8 วันเท่านั้น เขายังบอกอีกว่า ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดในขณะนี้ไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นการที่โลกขาดความสามัคคีและขาดผู้นำ
นอกจากนั้น บางประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดก่อนหน้านี้ กำลังพบว่า ไวรัสเริ่มกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง เช่น รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 17 คนในวันอังคาร ซึ่งแดเนียล แอนดริวส์ นายกรัฐมนตรีของรัฐ ระบุว่า เป็นการแพร่เชื้อจากภายในชุมชน และส่งผลให้ทางการสั่งปิดโรงเรียนประถม 2 แห่งในเมืองเมลเบิร์น
ด้านจีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 22 คน ในจำนวนนี้อยู่ในปักกิ่ง 13 คน หลังจากเมื่อวันจันทร์ (22) รัฐบาลนครปักกิ่งเพิ่งประกาศว่า มาตรการควบคุมช่วยชะลอการระบาดครั้งใหม่ โดยขณะนี้เมืองหลวงของจีนพบผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 200 คน
ส่วนเกาหลีใต้พบเคสใหม่ 46 คน ซึ่งรวมถึง 30 คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ที่ ซาอุดีอาระเบีย วันอังคาร โมฮัมหมัด เบนเตน รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์ แถลงว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้ผู้แสวงบุญในระดับ “เป็นพัน” เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ปีนี้ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า กระทั่งอาจจะต่ำขนาดแค่ 1,000 คน จากผู้ที่อยู่ภายในซาอุดีอาระเบียอยู่แล้ว
เขากล่าวว่า จำนวนซึ่งน่าจะเป็นหลักพันนั้น ยังคงอยู่ในกระบวนการของการทบทวน โดยที่อาจจะเป็น 1,000 หรือน้อยกว่า หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย
เปรียบเทีบกับปีก่อนๆ ซึ่งมีชาวมุสลิมกว่า 2 ล้านคนจากทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมพิธีที่กินระยะเวลา 5 วันในเมืองเมกกะแล้ว ถือเป็นการตัดลดลงอย่างฮวบฮาบเหลือเกิน
และแม้ที่จริงการตัดสินใจเช่นนี้เป็นที่คาดหมายกันอยู่มากแล้ว กระนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์เกือบ 90 ปีของซาอุดีอาระเบีย และมีผลเท่ากับเป็นการห้ามชาวมุสลิมทั้งหมดที่ยังคงอยู่นอกซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้
