รอยเตอร์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายวัน ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ในวันศุกร์ (17 ก.ค.) บ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงวิกฤต แม้ขณะเดียวกันพบสัญญาณบ่งชี้ว่าในบราซิล ดูเหมือนจะถึงสูงสุดแล้ว
อ้างอิงจากรายงานรายวัน องค์การอนามัยโลกระบุว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 237,743 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ, บราซิล, อินเดีย และแอฟริกาใต้ ทุบสถิติสูงสุดเดิมของเคสใหม่ 230,370 คน ซึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม อย่างไรก็ตามในส่วนยอดผู้เสียชีวิตนั้นค่อนข้างทรงตัว มีค่าเฉลี่ยไม่ถึง 5,000 คนต่อวันในเดือนกรกฎาคม
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่ทุบสถิติสูงสุด เป็นตัวหนุนให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกในวันศุกร์ (17 ก.ค.) ใกล้แตะระดับ 14 ล้านคนแล้ว อีกหนึ่งหลักชัยอันน่าเศร้าของโรคระบาดใหญ่ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 590,000 คน ในเวลาเพียงแค่ 7 เดือน ตามการนับของรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ระบุว่าการแพร่ระบาดในบราซิล ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ดูเหมือนจะถึงจุดสูงสุด เปิดโอกาสสำหรับการดึงโรคระบาดใหญ่ให้อยู่ภายใต้การควบคุม
“ไวรัสไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในชุมชน ดังเช่นที่มันเป็นมาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ได้เติบโตแบบทวีคุณอีกแล้ว” เขากล่าว “อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะลดลงด้วยตัวมันเอง”
ทั้งนี้ ไรอันบอกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในบราซิลยังทรงตัวอยู่ที่ราวๆ 40,000 คน ถึง 45,000 คนต่อวัน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตแกว่งตัวอยู่ที่ราวๆ 1,300 คน
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือโรคระบาดใหญ่ยังไม่เลี้ยวกลับ มันยังไม่ปักหัวลงจากยอดเขา จากมุมมองนั้น จำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัว แต่ไม่ได้ลดลงในแนงทางอย่างเป็นระบบแบบวันต่อวัน” เขากล่าว “ดังนั้น บราซิลจึงยังคงอยู่ในตอนกลางของการต่อสู้นี้”
หลังจากองค์การอนามัยโลกแถลงไม่นาน ทางบราซิลได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดประจำวันศุกร์ (17 ก.ค.) ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่องค์การอนามัยโลกอนุมาน หลังเผยว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 34,177 คน ลดลงจากช่วงหลายวันที่ผ่านมา และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1,163 คน
จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของบราซิลเพิ่มเป็น 2,046,328 คน และเสียชีวิตสะสม 76,688 คน