รอยเตอร์ - ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลก พุ่งเกิน 13 ล้านคนแล้ว ในวันจันทร์ (13 ก.ค.) จากการนับของรอยเตอร์ โดยเพิ่มขึ้น 1 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 5 วัน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่เกือบ 570,000 คน
การนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งอ้างอิงข้อมุลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลประเทศต่างๆ พบว่า โรคระบาดใหญ่กำลังแพร่ระบาดเร็วที่สุดในละตินอเมริกา ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในทวีปอเมริกา คิดเป็นจำนวนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก
บางพื้นที่ของโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 3.3 ล้านคน กำลังพบเห็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในระลอกแรกของโควิด-19 สวนทางกับประเทศอื่นๆ ซึ่งเส้นกราฟอยู่ในแนวแบนราบ และได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กันไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็มีอีกหลายพื้นที่เช่นกันที่ต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบสอง ในนั้นรวมถึงเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลีย และเมืองเลสเตอร์ของอังกฤษ หลังพบการแพร่ระบาดรอบใหม่ ส่วนฮ่องกง ซึ่งแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อนข้างต่ำที่ราวๆ 1,522 คน แต่ก็ต้องกระชับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมให้เข้มข้นอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกสาม
สหรัฐฯรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 69,070 คนในวันศุกร์ (10 ก.ค.) ถือเป็นตัวเลขรายวันสูงสุดในโลกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่วนในบราซิล พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1.86 ล้านคน ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู และมีผู้เสียชีวิตกว่า 72,000 คน
รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 15,000 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ในวันอาทิตย์ (12 ก.ค.) มากกว่ายอดติดเชื้อสะสมของเกาหลีใต้ นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่นี้อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน เสียอีก
จากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ เปรียบเทียบข้อมูลในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุดกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นในราวๆ 40 รัฐของสหรัฐฯ แต่ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และทำเนียบขาว กลับพูดซ้ำๆ ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และสถาบันการศึกษาต่างๆ ควรกลับมาเปิดการเรียนการสอนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ฮังการี กำหนดมาตรการเข้มงวดรอบใหม่ในด้านการเดินทางข้ามพรมแดน เริ่มตั้งแต่วันพุธหน้าเป็นต้นไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นในหลายประเทศ
ส่วนในสเปน ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา เรียกร้องประชาชนในพื้นที่หนึ่งซึ่งพบเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ให้อยู่แต่ในบ้าน แม้ผู้พิพากษารายหนึ่งวินิจฉัยตีตกคำสั่งบังคับล็อกดาวน์เขตดังกล่าว ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 160,000 คน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในเขตดังกล่าว มีขึ้นหลังจากสเปน หนึ่งในชาติที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงสุดในยุโรป ได้ยกเลิกมาตรการกักกันโรคทั่วประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว ครั้งที่โรคระบาดใหญ่ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุม
ทั้งนี้ ตอนที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เคสแรกในจีน ช่วงต้นเดือนมกราคม โรคระบาดใหญ่ใช้เวลาถึง 3 เดือน ในการแพร่กระจายเชื้อครบ 1 ล้านคนแรก แต่เวลานี้มันใช้เวลาเพียงแค่ 5 วัน ในการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อจาก 12 ล้านคน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เป็น 13 ล้านคน
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าว ถือว่ามากกว่าจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีอาการรุนแรงในแต่ละปี ถึง 3 เท่า
จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 568,500 คน อยู่ในระดับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในต่ละปี
นอกเหนือจากสหรัฐฯและบราซิลแล้ว อีกชาติที่สถานการณ์การแพร่ระบาดน่ากังวลอย่างยิ่ง ก็คือ อินเดีย หลังประเทศแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยแล้วราวๆ 23,000 คนต่อวัน ตั้งแต่เข้าสู่เดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 880,000 คน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก