เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังลุกลามบานปลายในฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะโอกินาวา ซึ่งพบบุคลากรทางทหารของอเมริกาและผู้ติดตามติดเชื้อไปแล้วอย่างน้อย 136 คน ก่อความขุ่นเคืองแก่ชาวบ้านท้องถิ่น ทั้งในแง่ทำลายความพยายามควบคุมการแพร่ระบาดและความเป็นไปได้ที่อาจมีการนำเชื้อออกมาสู่ชุมชน ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดของเกาะทางภาคใต้ของญี่ปุ่นแห่งนี้ คร่ำครวญว่าเจ้าหน้าที่อเมริกาไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเลย
พวกชาวบ้านบอกว่า พวกเขาทั้งรู้สึกเศร้าใจและโมโห ที่มีผู้ติดเชื้อมากมายเหลือเกินในจังหวัดของพวกเขา เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
มีรายงานพบบุคลากรทางทหารสหรัฐฯติดเชื้ออีก 36 คนที่ค่ายแฮนเซน ของนาวิโยธินในวันพุธ (15 ก.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ค่ายแห่งนี้เพิ่มเป็น 58 คน นอกจากนี้แล้ว ยังพบอีก 71 เคสที่เกี่ยวข้องกับสถานีทางอากาศฟูเตนมะของนาวิกโยธิน และอีก 5 รายที่ฐานทัพอากาศคาเดนะ ส่วนที่ค่ายค่ายแม็กทูเรียสและค่ายคินเซอร์ พบผู้ติดเชื้อแห่งละ 1 คน
แม้สถานีทางอากาศฟูเตนมะและค่ายแฮนเซนอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ แต่มีความกังวลต่อกรณีที่บุคลากรจากค่ายต่างๆ ออกมาเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ตามผับบาร์และร้านอาหารในช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งทำให้พวกเขามีการสัมผัสใกล้ชิดกับพวกชาวบ้านท้องถิ่น โดยเวลานี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพยายามติดตามประชาชนที่อาจสัมผัสใกล้ชิดกับบุคลากรของสหรัฐฯในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเร่งเร้าให้ชาวบ้านออกมาตรวจเชื้อโควิด-19
เดนนี ทามากิ ผู้ว่าการรัฐโอกินาวา แสดงความผิดหวังต่อความล้มเหลวในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของกองทัพสหรัฐฯ โดยเขาบินไปยังกรุงโตเกียวในวันพุธ (15 ก.ค.) พบปะกับตัวแทนของสถานทูตสหรัฐฯและรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับความกังวลของเขา ในนั้นรวมถึงกรณีที่กองทัพสหรัฐฯปฏิเสธมอบข้อมูลของผู้ติดเชื้อ โดยอ้างว่าเป็นความลับทางราชการและความเสี่ยงถูกโจมตีก่อการร้าย
“มันน่าเศร้ายิ่งที่มีบุคลากรของกองทัพสหรัฐฯติดเชื้อจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น” เขากล่าว พร้อมบอกว่าพวกชาวบ้านท้องถิ่นรู้สึกช็อก หลังจากความพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในโอกินาวาของพวกเขามีอันต้องพังครืนลง โดยจนถึงตอนนี้ มีประชาชนในจังหวัดโอกินาวาเพียงแค่ 148 คน จากทั้งหมด 1.5 ล้านคนที่ติดเชื้อโควิด-19
“ยิ่งไปกว่านั้นมันยังก่อข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อของสหรัฐฯจนถึงตอนนี้” ทามากิกล่าว
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของทางจังหวัด เปิดเผยว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศ และได้ยื่นข้อเรียกร้องไป 2 ข้อ “เขาขอให้สหรัฐฯระงับความเคลื่อนไหวของกองกำลังทั้งหมดจากแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯมายังโอกินาวา และต้องการทบทวนอย่างครอบคลุม ข้อตกลงว่าด้วยสถานะของกองกำลัง (Status of Forces Agreement : SOFA) ระหว่างสองชาติ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายกักกันโรคของญี่ปุ่น”
คำถามเกี่ยวกับกฎระเบียบกักกันโรคทหารสหรัฐฯและครอบครัวเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าโตเกียวแทบไม่มีการควบคุมพลเมืองสหรัฐฯที่บินเข้าสู่ญี่ปุ่นแม้แต่น้อย แม้กระทั่งกับบุคคลที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานต่างๆ ทางพาณิชย์
ที่ผ่านมา บุคลากรทางทหารสหรัฐฯ และครอบครัวที่มาประจำอยู่ที่ฐานในญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อห้ามการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่มาให้ ทามากิ เรียกร้องให้รัฐมนตรีต่างประเทศ แก้ไขข้อตกลงทวิภาคีสถานะของกองกำลัง โดยให้นาวิกโยธินสหรัฐฯและครอบครัว อยู่ในภายใต้มาตรการจำกัดการเดินทางเช่นเดียวกับประชาชนญี่ปุ่น
ทาโร โคโร รัฐมนตรีกลาโหมระบุว่ากองทัพสหรัฐฯจำเป็นต้องใช้มาตรการต่างๆที่เป็นรูปธรรม เพื่อเชื้อโรคในฐานทัพจะไม่แพร่กระจายสู่ชุมชน และแสดงความกังวลว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความพร้อมของกองทัพอเมริกา