รอยเตอร์ - มหาวิทยาลัยวอชิงตันเผยแพร่รายงานฉบับทบทวนล่าสุด ประมาณการว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะพุ่งเหนือ 224,000 คน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ปรับเพิ่มจากการคาดการณ์คราวก่อน 16,000 คน สืบเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในการคาดการณ์ล่าสุด สถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (IHME) ที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (14 ก.ค.) ได้ประมาณการด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจลดลง 40,000 คน หากว่าพลเมืองอเมริกาเกือบทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสวมหน้ากากในที่สาธารณะ
“มีการสวมหน้ากากกันมากขึ้น แต่ไม่สูงเท่าที่ควร ถ้า 95% ของอเมริกันชนสวมหน้ากากทุกครั้งตอนที่ออกนอกบ้าน อัตราการติดเชื้อจะลดลง จำนวนผู้เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลจะลดลง และคาดหมายว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงตามไปด้วย” สถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ระบุในถ้อยแถลง
การคาดการณ์รอบใหม่ของสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน มีขึ้นหลังจากรัฐแอละแบมา, ฟลอริดา และ นอร์ทแคโรไลนา เมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) รายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด กลายเป็นหลักชัยอันน่าเศร้าของการแพร่ระบาดระลอกสองที่กำลังเล่นงานพื้นที่ต่างๆ เกือบทั่วสหรัฐฯ
ในตัวเลขประมาณการรอบใหม่ ทางสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดหมายว่า จะมีชาวอเมริกาเสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งแตะ 224,089 คน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จากเดิม 208,254 คน ตามที่เคยประมาณการไว้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม
จากการนับของรอยเตอร์ จนถึงตอนนี้มีอเมริกันชนแล้วอย่างน้อย 136,052 คน เสียชีวิตจากโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อราวๆ 3.4 ล้านคน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตัวเลขประมาณการของสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เคยถูกทำเนียบขาวนำไปอ้างอิงมาแล้ว และได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข