เอเจนซีส์ - อเมริกายังวิกฤต พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเฉียด 60,000 คนในวันจันทร์ (13 ก.ค.) ด้านเอเชียผวาไวรัสระบาดรอบสอง หลายรัฐในออสเตรเลียคุมเข้มการข้ามแดน และจำกัดจำนวนนักดื่มในผับ ขณะที่ฮ่องกงเริ่มใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกครั้ง และโตเกียวเร่งตามประชาชนหลายร้อยคนที่เข้าชมละครในโรงละครแห่งหนึ่งหลังพบนักแสดง 20 คนติดเชื้อ
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า จำนวนผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกาในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดอยู่ที่ 59,222 คน รวมยอดสะสมกว่า 3.36 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 411 คน เป็น 135,582 คน
อเมริกาพบผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่ “ซันเบลต์” ซึ่งครอบคลุมรัฐทางใต้จากฟลอริดาจรดแคลิฟอร์เนีย กระตุ้นให้บางรัฐระงับการผ่อนคลายข้อจำกัดเพื่อป้องกันการระบาด หรืองัดมาตรการเข้มงวดกลับมาบังคับใช้ใหม่
วันจันทร์ เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครต สั่งปิดอีกครั้งทั้งร้านอาหารภายในอาคาร บาร์ โรงภาพยนตร์ ร้านตัดผม และสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา
วันเดียวกันนั้น นายแพทย์ แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมต่อสู้ไวรัสของทำเนียบขาวที่ดูได้รับความเชื่อถือจากสาธารณชนมากที่สุด กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดว่า สาเหตุที่จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกายังพุ่งทะยานขึ้นเป็นเพราะประเทศนี้ไม่ได้ดำเนินการล็อกดาวน์อย่างสมบูรณ์ มิหนำซ้ำการคลายล็อกเปิดเมืองก็ทำกันเร็วเกินไป
เขายังย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามวิธีการมาตรฐานเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 คือ การเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนแออัด และล้างมือบ่อยๆ
การให้สัมภาษณ์ของฟาวซีสอดคล้องกับคำเตือนของเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) ที่บอกว่า สถานการณ์การระบาดจะเลวร้ายลงอีก ถ้าประเทศต่างๆ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด และย้ำว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของโลก
ทางด้านอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 120,000 คน เมื่อไวรัสกลับมาระบาดระลอกสองในฤดูหนาว
สำหรับเอเชีย ก็กำลังหวั่นวิตกกับการระบาดระลอกสองเช่นเดียวกัน หลายประเทศซึ่งรวมถึงประเทศที่ได้รับการยกย่องก่อนหน้านี้ว่าสามารถรับมือการระบาดได้เป็นอย่างดี เริ่มตระหนักว่าคงจะต้องพักการรีสตาร์ทเศรษฐกิจไว้ก่อน
รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ยกเลิกแผนเปิดพรมแดนติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 20 ที่จะถึง ขณะที่รัฐควีนส์แลนด์ใช้มาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสองเขตทางตะวันตกของเมืองซิดนีย์ ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่พบผู้ติดเชื้อนับสิบคนที่เชื่อมโยงกับการระบาดในรัฐวิกตอเรีย ประกาศห้ามผับรับลูกค้าเกิน 300 คน หลังพบการระบาดในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์
ด้านรัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มอีก 270 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียเพิ่มเป็น 10,000 คน และมีผู้เสียชีวิตในรัฐนี้อีก 2 คน รวมเป็น 110 คนทั่วประเทศ
ที่ฮ่องกง ทางการเริ่มบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดอีกครั้ง ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอังคาร หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน พบเคสใหม่ถึง 52 คน ในจำนวนนี้มี 41 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่น และมีผู้เสียชีวิต 8 คน
ทางด้าน วอลต์ ดิสนีย์ เผยว่า จะปิดสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์อีกครั้งตั้งแต่วันพุธ (15)
ที่โตเกียว เจ้าหน้าที่พยายามติดตามตัวประชาชนกว่า 800 คน ที่เข้าชมละครในโรงละครแห่งหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ หลังพบว่านักแสดง 20 คนติดเชื้อ
ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดที่ไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าผ่อนคลายข้อจำกัด โดยเร็วๆ นี้ จะเปิดให้บริการสนามบินอีกครั้ง แม้ยังพบการติดเชื้อในเมืองใหญ่ ชนบท และฐานทัพอเมริกันก็ตาม
ในอินเดีย เมืองเบงกาลูรู (บังกาลอร์) ฮับไฮเทคของแดนภารตะ เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งตั้งแต่วันอังคาร เป็นเวลานานหนึ่งสัปดาห์ หลังอินเดียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมโหฬาร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นผลจากการที่รัฐบาลเร่งผ่อนคลายมาตรการจำกัดเร็วเกินไป
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดียขณะนี้อยู่ที่ 906,752 คน สูงสุดอันดับ 3 ของโลก รองจากอเมริกาและบราซิล เฉพาะวันอังคารวันเดียวพบเคสใหม่ถึง 28,498 คน
สัปดาห์นี้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศที่มีสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมะนิลาเตรียมล็อกดาวน์พื้นที่บริเวณหนึ่งครอบคลุมประชาชน 250,000 คน และไม่มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการจำกัดในพื้นที่อื่นๆ ของเมืองหลวง
ตรงข้ามกับอินโดนีเซีย ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ที่พยายามต้านทานกระแสเรียกร้องให้ล็อกดาวน์ เนื่องจากกังวลกับเศรษฐกิจ แม้มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในแถบเอเชียตะวันออกเมื่อยกเว้นจีนก็ตาม
กระนั้น มีข่าวว่า ผู้ว่าการจาการ์ตากำลังพิจารณายกระดับมาตรการจำกัดบางอย่างหลังยอดผู้ติดเชื้อในเมืองหลวงพุ่งขึ้น